ฟ้าพิโรธ
ชาวบ้านเรียกทุ่งนานี้ว่าทุ่งใหญ่เป็นทุ่งที่กว้างขวางมากมีเนื้อที่ประมาณร้อยไร่เศษ มีขนำร้างหลังหนึ่งอยู่ปลายนา ต้นหว้าขนาดใหญ่อยู่ข้างขนำ ขนำหลังนี้ทรุดโทรมมีเพียงโครงสร้างเท่านั้น เด็กชอบมาเล่นที่ขนำแห่งนี้เพราะขนำนี้เป็นที่รวมของเด็กเลี้ยงวัวเลี้ยงควายรวมทั้งผมด้วย
วันนี้เรามากันสามคนพี่น้อง คือ พี่ฟ๋อง พี่วรณ์ และผม พี่ชายของผมได้พบกับเพื่อนหลายคน เช่น หมี หมู ร่าย ดำ เจ้าเหลือวิ่งกระดิกหางมาหาผมและมันดีใจที่ได้มีเพื่อนใหม่ เช่น เจ้าแดง ตุ๊กติ๊ก ช้าง และหมาอีกหลายตัวจนผมจำชื่อไม่หมด
แสงแดดส่องแสงแรงกล้าขึ้น เงาของต้นไม้แผ่กว้างขึ้น เราชวนกันไปเล่นน้ำที่กลางทุ่ง พวกเราเล่นดำน้ำแข่งกันว่าใครดำน้ำได้นานที่สุด เวลาผ่านไปสองชั่วโมงเต็ม วัวก็ยังยืนกินหญ้าอยู่ที่กลางทุ่ง เราเล่นน้ำกันจนรู้สึกหนาวตัวสั่น แดดเริ่มอ่อนแสงลง นกเขาขันร้องเป็นจังหวะ ประสานเสียงกันเป็นระยะๆ นกบางคู่บินร่อนจีบกันจู๋จี๋
พวกเราชวนกันไปเที่ยวเขาดินที่อุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้นานาพันธุ์ ตีนเขาเป็นดินแดงมีดอกไม้ป่างดงาม มีหินโผล่ออกมาจากตีนเขาด้วย ภูเขาลูกนี้แปลกที่เป็นดินมากกว่าเป็นหินเราจึงเรียกว่าเขาดิน พอขึ้นไปจนถึงยอดภูเขาก็ได้เห็นทิวทัศน์รอบๆ ภูเขาเป็นท้องนาที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ผมเห็นต้นไม้ใหญ่ริมเชิงเขาเต็มไปหมดเป็นภาพที่น่าหลงใหล แล้วพวกเราก็เริ่มเหนื่อยล้าต่างชวนกันลงไปหาน้ำกินในสวนยาง ผมกับพี่ชายก็ขอแยกทางไปก่อนเพราะเป็นห่วงวัวกับควาย
แสงตะวันเริ่มอ่อนแสง ฟ้ามืด ก้อนเมฆขนาดใหญ่เริ่มปกคลุมทุ่ง ฝูงควายแหงนมองฟ้าเหมือนกับส่งสัญญาณบางอย่างบอกให้เพื่อนในฝูงทราบ บรรยากาศในท้องทุ่งมืดครึ้มราวกับค่ำแล้ว เสียงนกกวักร้องเรียกหาลูก ส่วนฝูงวัวเริ่มสับสนกับความมืด พวกมันวิ่งแยกกันคนละทิศละทาง แล้วทันใดนั้น
เปรี้ยง!ๆ ฟ้าผ่าต้นตำเสา ผมยืนมองตาค้างด้วยความตกใจ หนาวสั่นไปทั้งตัว พี่วรณ์ยอมเสียสละให้ผมกับพี่ฟ๋องกลับบ้านก่อนเพราะกลัวว่าฟ้าจะผ่าลงมาอีก เราจะไม่หลบอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้จอมปลวกเกรงว่าฟ้าจะผ่าต้นไม้ใหญ่แล้วโดนด้วย จึงเดินกลับบ้านตามรางรถไฟทิ้งให้พี่วรณ์เลี้ยงวัว และควายคนเดียว ผมกับพี่รีบอาบน้ำแล้วนั่งรอที่หน้าชานด้วยความเป็นห่วง หวั่นเกรงว่าวัวกับควายจะวิ่งเข้าป่าไปเพราะกลัวความมืดและเสียงฟ้าผ่า
ฝนหยุดตก ฟ้าเลิกคำราม ความกังวลใจก็ลดน้อยลง เมื่อผมได้ยินเสียงลูกระฆังของพ่อที่แขวนให้แม่วัวดังขึ้น ผมดีใจมากที่พี่วรณ์กลับมาอย่างปลอดภัย
แหล่งที่มา : คอลัมโรงเรียนนักเขียนน้อย โดย เด็กชายวรรณะ นุ้ยผุด ชั้น ม.2 โรงเรียนบ้านคลองมวน ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง, หนังสือจุกประกายวรรณกรรม, วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2545
|