ตามปกติแล้ว หนังภาคต่อมักจะมีการบ้านให้ทำหนักกว่าเป็น 2 เท่าของภาคแรก อะไรที่เคยเห็นในภาคแรก จะต้องเหนือกว่าเมื่ออยู่ในภาคต่อ และอะไรที่ไม่เคยเห็นในภาคแรก ก็ควรจะต้องปรากฏไปอยู่ในภาคต่อ แต่สำหรับ 2 Fast 2 Furious หนังภาคต่อของ The Fast and the Furious กลับไม่เป็นอย่างที่ว่า

มีองค์ประกอบหลายส่วนใน 2 Fast 2 Furious หายสาบสูญไปจากภาคแรก ไม่นับผู้กำกับ ร็อบ โคเฮน และ ตัวนำอย่าง วิน ดีเซล ที่กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ไปแล้ว หากแต่วิญญาณของหนังรถแข่ง และบรรยากาศของหนังวัยรุ่นประเภทจิ๊กโก๋จิ๊กกี๋กลับหายวับไปด้วย

สำหรับ 2 Fast 2 Furious เล่าเรื่องราวหลังจากที่ ไบรอัน โอคอนเนอร์ ตำรวจนอกเครื่องแบบที่แฝงตัวไปสืบคดีโจรกรรมในกลุ่มของนักแข่งรถ แต่ดันปล่อยให้ผู้ต้องหาหลบหนีไป ด้วยเพราะคุณธรรมน้ำมิตรที่มีต่อเพื่อนซึ่งเป็นผู้ร้าย

หลังจากนั้น ทำให้ ไบรอัน อดเป็นตำรวจต่อ แถมยังต้องโทษเพราะข้อหานั้นอีกด้วย มาภาคนี้ ไบรอัน กลายเป็นนักแข่งรถข้างถนนจริงๆ และเผลอกลายมาเป็นอาชญากรด้วย และด้วยคุณสมบัติอันเพียบพร้อมหลายประการของการเป็นอาชญากรระดับฟันน้ำนม ทำให้ทางเอฟบีไอดึงตัวไปร่วมงานด้วย โดยยื่นข้อเสนอว่าเขาจะหลุดจากทุกข้อหาที่ทำมาในไมอามี่ เพียงแต่ช่วยเหลืองานของทางการ ดังนั้นด้วยประวัติที่ไม่บริสุทธิ์และคุณสมบัติของนักแข่งรถฝีมือฉกาจทำให้เขาสามารถแฝงตัวเข้าไปร่วมงานกับเจ้าพ่อค้ายาเสพติดตัวเอ้ของไมอามี่ได้ไม่ยาก งานนี้ ไบรอันขอทางการลงมือคัดเลือกคู่หูด้วยตนเอง ซึ่งก็คือ โรมัน เพียรซ์ เกลอเก่าที่เกลียด ไบรอัน เข้าไส้ เพราะมารู้ทีหลังว่าเพื่อนซี้เป็นตำรวจแฝงตัวมา

เช่นกันกับ ไบรอัน โรมัน ได้ข้อเสนอแบบเดียวกัน ประวัติจะใสทันทีแถมไม่ต้องมีทัณฑ์บน เพียงแค่ร่วมงานกับทางการในครั้งนี้

ทั้งสองหนุ่มต่างสีผิว จึงต้องแฝงกายเข้าแก๊งของ คาร์เตอร์ เวอโรน ผู้ทรงอิทธิพล โดยได้รับความช่วยเหลือจาก โมนิก้า ฟูเอนเทส ตำรวจหญิงนอกเครื่องแบบสุดเซ็กซี่

เรื่องราวโดยคร่าวก็มีประมาณนี้ ในแง่ของบท หนังลดความซับซ้อนลงไปมากโขเมื่อเทียบกับภาคแรก ที่ ไบรอัน ต้องกดดันกับสภาพที่เป็นอยู่ เพราะเป็นตำรวจลับต้องทำคดี ขณะเดียวกันก็เริ่มผูกพันกับผู้ร้ายที่เป็นทั้งเพื่อนและเสมือนพี่ชาย แถมยังไปหลงรักน้องสาวเขาให้อีก แต่เมื่อมาถึงภาคนี้ หนังไม่มีความขัดแย้งอะไรแบบเดิมให้หลงเหลือ ไบรอัน ไม่ได้เป็นตำรวจแล้ว แถมยังไม่มีปมอะไรให้ต้องกดดันเหลือไว้ให้คนดูลุ้นได้อีก ว่าพระเอกจะแก้ปัญหาที่มีอยู่อย่างไร

ที่สำคัญบรรยากาศดิบๆ มันๆ แบบจิ๊กโก๋จิ๊กกี๋บนสังเวียนข้างถนนก็ไม่มีเหลือหรอ จะมีก็เพียงเปลือกของมัน ประเภทสาวสายเดี่ยวเอวลอยและกางเกงเอวต่ำไว้ให้ดูแว้บๆ พอจี๊ดใจ และฉากรถแข่งที่อยู่ในหนังก็เหมือนเป็นเพียงน้ำจิ้มถ้วยเล็กเสียมากกว่า ความเร้าใจที่เคยมีมาจากภาคก่อนแทบไม่เหลือหรอ

น่าเสียดายที่ผู้กำกับมีฝีมืออย่าง จอห์น ซิงเกลตัน ต้องมาตกม้าตายกับเรื่องนี้ ส่วนใครที่ปิ๊งนางแบบสาวดาวรุ่งอย่าง เดวอน อาโอกิ นั้นอาจจะต้องเสียใจอย่างแรง เพราะเธอไม่มีบทมากนัก มาปรากฏกายเพียงแฉลบๆ ไม่ได้โดดเด่นเหมือนที่โปสเตอร์หนังหลอกเอาไว้ ส่วน อีวา เมนเดส ในบทของ ฟูเอนเทส ก็เซ็กซี่พอทำเนา ไม่ถึงกับเร้าใจนัก ทั้งที่มีเครื่องเครามากเหลือ ส่วน พอล วอล์กเกอร์ ในบทพระเอก ไบรอัน โอคอนเนอร์ ยังคงเสียมวยให้กับ ดาราผิวดำคู่หูอย่าง ไทเรส กิ๊บสัน เช่นเคย หลังจากที่เคยโดนขโมยซีนจาก วิน ดีเซล มาแล้วในภาคแรก

แหล่งที่มา : Reviewed by : ซิซิเลีย, www.movieseer.com

สินค้าที่เกี่ยวข้อง คลิกดูรายละเอียด