Home Shop Mag'z Member Basket Thai / English Site Map
Webboard Book Toy Music Movie
Movie
  >  home >  movie >  Interview > 
    Brad Pitt กับการพากษ์การ์ตูนครั้งแรกในชีวิตแหล่งที่มา :
หนังสือ Movie Time / 2003
Brad Pitt

กับครั้งแรกในหน้าที่นักพากษ์ของสุดหล่อ Brad Pitt ในการให้เสียงกับตัวการ์ตูน Sinbad พระเอกจากเรื่อง Sinbad : Legend of the Seven Seas พระเอกหนุ่มได้แบ่งปันประสบการณ์ครั้งนี้กับเราว่า นี่เป็นงานที่สนุกสนานและน่าจดจำที่สุดครั้งหนึ่งของชีวิตนักแสดงเลยทีเดียว ซึ่งเรื่องนี้ เหล่าอนิเมเตอร์ทั้งหลายในสตูดิโอที่ต้องทำงานใกล้ชิดกับ Brad เพื่อจับการเคลื่อนไหวและลักษณะเสียงของเขาต่างก็ร่วมยืนยันและคอนเฟิร์มกันมาถ้วนหน้าว่า Brad ใส่ทั้งใจและจิตวิญญาณลงไป Sinbad อย่างสุดความสามารถจริงๆ

ศิลปินผู้ออกแบบภาพวาดของ Sinbad ที่เราได้เห็นบนจอภาพยนตร์นั้น ต้องการที่ทำให้แน่ใจว่าตัวละครที่เขาวาดออกมานั้น มีส่วนผสมของความเป็น 'Bradisms' ถึงแม้ว่าหน้าตาของ Sinbad จะไม่เหมือน Brad เอาเลยก็ตาม แต่เขาก็ต้องการให้ Sinbad มีสุ้มเสียงและเคลื่อนไหวในบุคลิกลักษณะเดียวกับ Brad

Jakob Jort Jensen ซูเปอร์ไวเซอร์คนสำคัญของโปรเจ็คส์ Sinbad เวอร์ชั่นอนิเมทหรือที่ใครๆพากันเรียกว่า Sinbrad คนนี้ ชอบที่นั่งหามุมเงียบๆในสตูดิโอสำหรับนั่งและสเก็ตภาพของ Brad เพื่อนำไปประกอบการทำงานจริง

แต่ละขั้นตอนการทำงานล้วนเต็มไปด้วยความเฮฮาสนุกสนาน โดยเฉพาะ Brad เองนั้น เรียกได้ว่าเสนอตัวอย่างเต็มใจที่จะมีส่วนร่วมในทุกส่วนของหนัง ด้วยความที่ตัวเขาเองต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของหนังที่หลานชายและหลานสาวของเขา หรือแม้แต่ลูกของเขาเองจะได้ดูในอนาคตเรื่องนี้ และสิ่งที่เขารู้สึกก็คือ การได้ทำงานอนิเมชั่นกับสตูดิโอแนวหน้าอย่างดรีมเวิร์ก มีผู้ร่วมงานอย่าง Jeffrey Katzenberg จะมีอะไรยอดเยี่ยมไปกว่านี้อีกไหมเนี่ย

"ผมมีหลานชายกับหลานสาวที่ผมค่อนข้างจะหลงพวกเขาเอามากเหมือนกัน แล้วผมก็อยากจะให้พวกเขาได้ดูหนังการ์ตูนดีๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมเข้ามาทำงานนี้ครับ" Brad อธิบาย "และถ้าคุณอยากจะมีส่วนร่วมในหนังอนิเมชั่นดีๆแบบนี้ แน่นอนว่าคุณจะต้องมี Kazenberg ครับ"

Brad เป็นนักแสดงหนุ่มที่ครองตำแหน่งขวัญใจประชาชนของฮอลลีวู้ดมานานร่วมทศวรรษแล้ว นับจากผลงานสร้างชื่อครั้งแรกด้วยบทไอ้หนุ่มโบกรถสุดเท่ห์ในหนังของ Ridley Scott เรื่อง Thelma and Louise เมื่อปี 1991 และนับแต่นั้นมาชื่อของ Brad ก็หอมหวนทวนลมไปทั่วบ็อกซ์ออฟฟิศในฐานะดารานำฝ่ายชายผู้มากทั้งความสามารถและเสน่ห์อันล้นเหลือ Brad เคยแสดงมาแล้วทั้งงานดราม่าสุดปราณีตของ Robert Redford อย่าง A River Run Through It หรือฆาตกรโรคจิตใน Kalifornia ประกบ Tom Cruise ใน Interview With A Vampire สำรวจแผ่นดินลี้ลับและศาสนาใน Seven Years In Tibet นักสืบผู้น่าสงสารใน Seven และชนกับ Ed Norton ใน Fight Club

และสำหรับผลงานที่เพิ่งผ่านสายตาเราไปเมื่อปีสองปีก่อนนี้ก็มี Ocean's Eleven หนังที่ยกโขยงดารามาเกือบหมดฮอลลีวู้ด ไม่ว่าจะเป็น Julia Robert, George Clooney, Matt Damon ฯลฯ แล้วก็หนังแบล็คคอมเมดี้ของผู้กำกับอังกฤษ Guy Ritchie เรื่อง Snatch ก่อนจะปันไปประกบ Julia Robert อีกครั้งในโรแมนติกคอมเมดี้ The Maxican และตบท้ายด้วย Tony Scott's Spy Game หนังของ Robert Redford

ส่วนตอนนี้ Brad กำลังง่วนอยู่กับการถ่ายทำหนังอีพิคฟอร์มอลังการ Troy ของ Wolfgang Petersen ที่เขารับบทเป็นนักรบหนุ่มนาม Achilles ซึ่งภรรยาสาวคนสวย Jennifer Aniston ก็แวะไปเยี่ยมเยียนที่กองถ่ายอยู่เนืองๆ

ทำไมคุณถึงตัดสินใจที่จะทำงานกับหนังอนิเมชั่นล่ะ หรือเป็นเพราะว่าคุณเล่นหนังมาจนหมดทุกแนวเสียแล้ว

ประการแรกเลยก็คือ เดี๋ยวนี้โลกของอนิเมชั่นมีพัฒนาการที่ล้ำหน้าไปมากแล้ว มันเป็นแนวหนังที่สุดยอดเหนือใครในขณะนี้ ไม่ใช่แค่นักแสดง แม้แต่นักร้องระดับเสียงทองก็ยินดีที่จะมีส่วนร่วมในการทำหนังอนิเมชั่น ประการที่สอง ผมมีหลานชายและหลานสาวที่ผมค่อนข้างจะหลงพวกเขาเอามากเหมือนกัน แล้วผมก็อยากจะให้พวกเขาได้ดูหนังการ์ตูนดีๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมเข้ามาทำงานนี้ครับ

แล้วพวกหลานๆของคุณตื่นเต้นมากไหมที่คุณอา Brad กำลังจะกลายเป็น Sinbad น่ะ

ยังไม่เชิงว่ารู้เรื่องนี้สักเท่าไหร่หรอกครับ แต่ผมน่ะแทบรอให้พวกเขาดูไม่ไหวแล้ว

อายุเท่าไหร่กันแล้วล่ะ

4 ขวบกับ 9 ขวบครับ

คุณคิดว่า แล้วถ้าอีกหน่อยคุณมีลูกของตัวเองแล้ว คุณอยากจะให้พวกเขาได้ดูเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า

ตอนนี้ผมยังไม่ได้คิดไกลขนาดนั้นหรอกครับ แต่คิดว่าคงจะให้พวกเขาได้ดูกันน่ะแหละ

ยากไหมกับการมาทำงานนักพากษ์ครั้งนี้

อืม ถ้าพูดถึงเรื่องเสียงแล้วมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับผม แต่ส่วนมากแล้วคนที่จะมาทำงานนี้มักจะเป็นคนที่มีแบ็คกราวน์ทางครอบครัวเกี่ยวกับงานพากษ์ มีเสียงที่หนักแน่นและได้รับการฝึกฝนมามากพอ ซึ่งทั้งหมดนั่นผมไม่มีเลย เพราะงั้นก็เลยค่อนข้างแปลกใจอยู่บ้างตอนที่พวกเขาเลือกผม ก็เลยต้องมาตั้งสติคิดกันอีกทีว่า นี่ผมกำลังจะทำอะไรกันแน่ แต่แล้วพอพวกเขาบอกว่า เขาไม่ได้ต้องการสำเนียงหรือลีลาการออกเสียงอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งผมก็โอเคแล้วก็ลองไปดูงานว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรกันแน่ แม้ว่าตอนแรกที่เริ่มทำงานจะเก้ๆกังๆอยู่บ้าง แต่ผมก็ปรับตัวได้ในที่สุดแล้วทุกคนก็จบลงตรงเสียงหัวเราะเหมือนๆกัน

คุณคิดว่าอนิเมเตอร์ที่สร้างตัวการ์ตูน หยิบยืมบุคลิกบางอย่างของคุณไปใส่ไว้ในตัวละครด้วยหรือเปล่า

พวกเขาบอกผมว่าอย่างงั้นนะครับ แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกเหมือนมองเห็นตัวเองหรอกนะ เพราะถ้าเป็นตัวผมจริงๆคงไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นได้แน่ ผมหมายถึงคุณจะไม่มีทางได้เห็นผมโหนเชือกเป็นทาร์ซานแบบนั้น (หัวเราะ) แต่พวกอนิเมเตอร์บอกว่าทั้งหมดที่อยู่ในตัวการ์ตูนนั้น เป็นสิ่งที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการกริยาท่าทางและความบ้าของตัวเรานี่แหละ

พวกอนิเมเตอร์แอบสเก็ตภาพคุณตอนที่คุณกำลังทำงานอยู่หรือเปล่า

ครับ พวกเขาทำอย่างนั้น พวกเขาพยายามหาไอเดียแล้วก็แรงบันดาลใจอยู่มั้ง ผมว่า

แล้วคุณได้ใช้ความสามารถทางการแสดงแค่ไหนล่ะ กับงานพากษ์เสียงนี่

ผมแน่ใจว่านักแสดงที่เก่งๆ คงจะได้ใช้ความสามารถทางการแสดงเยอะเลยในงานพากษ์นี้ แต่สำหรับผมแล้ว มันเป็นความสนุกมากกว่า ผมหมายถึงว่า พอภาพทั้งหมดปรากฏขึ้นมาตรงหน้าแล้ว คุณก็เดินหน้าลุยไปตามทางที่สคริปต์ให้มา ระหว่างนั้นคนอื่นๆก็จะช่วยกันออกไอเดียไปพลางๆ ด้วย หลังจากนั้นก็ตรวจสอบงานดูแล้วพวกเขาก็จะโทรหาผมถ้าหากว่าต้องการจะเพิ่มตรงส่วนไหนหรือตัดตรงส่วนไหนออกไป

ชอบไหมล่ะที่เวลาไปทำงานพากษ์หนังคุณไม่ต้องแต่งตัวดีๆหรือแต่งหน้าทำผมเหมือนอย่างตอนไปกองถ่ายด้วยนะ

ช่ายครับ มันง่ายดี เป็นอะไรที่สบายๆ แต่ก็อีกนั่นแหละ นักพากษ์เป็นคนที่ได้เครดิตน้อยที่สุดในหนังอนิเมชั่น เวลามีคนถามว่า คุณทำให้ตัวการ์ตูนเหล่านั้นมีชีวิตขึ้นมาได้ยังไงนะ ผมก็ต้องบอกว่า ผมเปล่า คนอื่นต่างหากที่ทำ เรามีอนิเมเตอร์ตั้ง 4-5 ร้อยคนทำงานกันมาตลอด 4 ปี แล้วผมจะไปสำคัญตรงไหนล่ะ พวกเขาทั้งนั้นที่รู้ทุกอย่าง

ตอนนี้ผมคุณยาวแล้วนะ คุณไว้มันเหรอ

ครับ คงสักพักนึง เป็นเรื่องของงานน่ะ ผมเล่นเป็น Achilles ในเรื่อง Troy

ดูรูปร่างคุณมีมัดกล้ามมากขึ้นด้วยนะ เหนื่อยไหมกว่าจะได้แบบนี้

Troy เป็นงานที่มีความขัดแย้งในตัวเองซึ่งผมต้องทุ่มเทเต็มที่ให้กับงานนี้ 6 เดือนเต็มที่ผมต้องเข้ารับการฝึกฝนเพื่อเรียนรู้การรับบทบาทนี้ เพื่อศึกษาธีมของเรื่อง และอีกหลายๆอย่างที่เราต้องรู้

โอ้โห งั้นคราวนี้คุณก็ได้เล่นเป็นตัวละครสำคัญในเทพปกรณัมกรีเลยละสิ

ผมไม่เคยรู้สึกอย่างนั้นเลยครับ แต่ใช่ครับเขาเป็นตัวละครในตำนานกรีก ผมคิดว่าทั้ง Sinbad และ Achilles เป็นไอคอนที่โด่งดังทั้งคู่นั่นแหละ

แล้วคุณชอบไหมล่ะที่ต้องฟิตร่างกายให้กำยำเหมือน Achilles น่ะ

ชอบสิครับ เหมือนใน Ocean Eleven น่ะแหละ คุณต้องเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตาของตัวเองให้กลายเป็นตัวละครที่คุณเป็นและแสดงออกมาให้คนดูเชื่อ

คุณต้องเข้าคอร์สเรียนการใช้ดาบหรืออะไรแบบนั้นหรือเปล่า

ต้องเรียนครับ ประมาณครึ่งปีที่ผ่านมานี่ผมต้องอุทิศตัวให้สิ่งเหล่านี้แหละ

แล้วตอนนี้คล่องหรือยังล่ะ

ผมโอเคนะครับ มันเป็นสไตล์การใช้ดาบที่พิเศษมาก แล้วก็ดูเท่ห์มากด้วย

งั้นคุณก็เดินเข้าตรอกมืดๆคนเดียวได้แล้วสิ

(หัวเราะ) อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับ เพราะผมยังหันไปถามครูฝึกอยู่เลยว่า "แล้วต้องทำไงต่อล่ะ"

เดี๋ยวนี้การเลือกรับงานเป็นเรื่องยากสำหรับคุณหรือเปล่า

ผมไม่ได้ทำงานจริงๆจังๆมา 2 ปีแล้ว นอกจาก Sinbad นี่แหละ ผมหันไปทำอย่างอื่นแทนน่ะ

อะไรเหรอ

ไม่ใช่งานใหญ่หรือโด่งดังอะไรหรอกครับ ก็งานสองสามชิ้นเกี่ยวกับโปรดัคชั่นเท่านั้นเอง

คุณกำลังโปรดิวซ์หนังรีเมกเรื่อง Willy Wonka หรือเปล่า

ใช่ครับ บริษัทของเราเป็นคนทำน่ะ ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างหาตัวผู้กำกับอยู่ เราต้องการคนที่มีทัศนที่เราต้องการน่ะครับ

แล้วงานแสดงเรื่องต่อไปล่ะ

Mr and Mrs Smith กับ Nicold Kidman ครับ

คุณเคยมองเห็นตัวเองใช้ชีวิตผจญภัยผาดโผนเหมือน Sinbad บ้างไหม

โอ้ ผมชอบอยู่ติดบ้านมากกว่าครับ ผมเคยชอบการเดินทางแล้วก็สำรวจสิ่งใหม่ๆอยู่หรอก เหมือนตอนที่ถ่ายทำเรื่อง Troy ใน Malta ได้เรียนรู้วัฒนธรรมเมื่อ 5,000 ปีก่อน ผมรักที่นั่นมันเป็นสถานที่ที่มหัศจรรย์มากเลย แต่เรื่องแบบนี้มันจะกลายเป็นเรื่องยากขึ้นเมื่อตอนคุณอายุมากขึ้น และแน่นอนเมื่อมีลูก ผมก็เลยอยากอยู่กับบ้านมากกว่า

คุณคิดจะร่วมงานกับภรรยาบ้างหรือเปล่า มันเป็นอะไรแบบที่คนฮอลลีวู้ดเขาทำกันนะ

อาจจะไม่ก็ได้ครับ ผมรู้สึกว่าการที่คู่รักมาทำงานร่วมกันมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างลำบากนะ แค่ได้แต่งงานกับเธอผมก็มีโอกาสได้เห็นเธอบ่อยอยู่แล้วละ

ผมจำได้ว่า Jennifer เคยพากษ์เสียงในเรื่อง South Park ได้ยอดเยี่ยมมากเลยนะ เธอให้คำแนะนำอะไรคุณบ้างหรือเปล่าเกี่ยวกับงานของ Sinbad

ไม่เลยครับ (หัวเราะ)

คุณคุยกันเรื่องงานที่บ้านบ้างไหม

ครับ แน่นอนเลย เธอเป็นที่ปรึกษาที่ดีเวลาคุณพยายามคิดอะไรสักอย่าง เป็นตัวกระจายเสียงที่ดีด้วย

ตอนเด็กๆ คุณเคยถือดาบปลอมแล้วทำท่าต่อสู้อย่าง Sinbad บ้างไหม

ไม่เคยนะ เราเล่นเป็น Evil Kenevil มากกว่า ตอนนั้นสเก็ตบอร์ดยังเป็นของใหม่อยู่ครับ ไม่เหมือนตอนนี้ที่พวกเด็กอายุ 18 ม้วนตัว ตีลังกา กลับสเก็ตบอร์ดกันเป็นว่าเล่น

Thelma and Louise เป็นงานที่คุณได้แจ้งเกิดจริงๆ คุณรู้สึกอย่างนั้นหรือเปล่า

แน่นอนที่สุด มันเป็นงานที่เปิดประตูให้ผมเลยละ

  • สินค้าที่เกี่ยวข้อง
    คลิกดูรายละเอียด

  •  

    Top
    E-Mail

    Password


    Community
    Activity
    Photo Contest
    Bey Blade
    Cartoon 9
    Chat Room
    D-3
    D-Terminal
    D-Power
    Digimon
    Download
    Market Place
    Micro pet
    Quiz
    Can not select dB