Voivod
interview with
Michalel Away Langevin
เจสัน นิวสเตด (เบส) อดีต Metallica ปัจจุบัน Ozzy Osbourne Band เข้าร่วมเป็น สมาชิกอย่างเป็นทางการของ Voivod เช่นเดียวกับที่ สเนก เดนิส เบแลงเกอร์ นักร้องนำดั้งเดิมกลับมาร่วมวงอีกครั้ง
Voivod เป็นวงแคนาดาที่เล่นดนตรีโปรเกรสสีฟ/ไซคีเดลิก/ไซเบอร์/นิวเคลียร์เมตัล (?) มานาน แฟน Metal Mag หลายคนอาจจะสงสัยว่า Voivod คือวงอะไรวะ? แน่นอนครับ เราจะนำเสนอเรื่องราวของพวกเขาให้อ่านกัน
พอทัวร์อเมริกากับ Sepultura แล้วก็ได้มาร่วมเป็นหนึ่งในแก๊ง Ozzfest เป็นอย่างไรครับที่ได้เล่นแพ็กเดียวกับ Sepultura มันเหมือนกับดนตรีเอกซ์ตรีมยุค80s ได้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งนะครับ
ช่ายเลย เป็นเรื่องยากที่จะหาแพ็กเกจทัวร์ที่สมบูรณ์แบบได้ขนาดนี้ เป็นการจับคู่ที่เยี่ยมมาก พวก Sepultura ก็เยี่ยม ผมว่าเหมาะสมแล้ว
เจสัน นิวสเตดก็ซี้กับ Sepultura มากด้วยนี่ครับ แล้วพวกคุณล่ะ
หลายปีมานี้เราได้พบกับพวก Sepultura บ่อยมาก ดื่มกันประจำ ไปดูโชว์ของพวกเขาบ้าง เจสันรู้จักพวกเขามาก่อนหน้านี้นานแล้ว ทัวร์คราวนี้ก็เลยมีบรรยากาศที่เป็นกันเองดีมาก
อัลบัม Voivod ที่เพิ่งออกกับสังกัด Chophouse Records ในอเมริกานั้นถือเป็นการกลับมาร่วมงานของสเนก นับแต่อัลบัม The Outer Limits (93) เลยนะครับ
หลังจากอัลบัมนั้น เราก็ยังติดต่อกับสเนกอยู่ เขามีปัญหาต้องสะสางมาก หายหน้าไปร่วม 2 ปี พอเขากลับไปมอนทรีออล เราก็ติดต่อกันมาตลอด เรา ไปเล่นที่มอนทรีออล เขาก็โดดขึ้นมาแจมบนเวทีร้องร่วมกับเรา เขายังเป็นเพื่อนที่ดีของเราตลอดเวลา การกลับมาของเขาจึงเป็นเรื่องที่ไม่ได้เหนือความคาดหมายอะไร
ถ้าได้ แบล๊กกี (ชอง อีฟ เทริอาลต์/เบส) มาอีกคนก็ถือว่าสมาชิกดั้งเดิมมารวมกันครบสินะครับ
อืม การแยกตัวออกไปของแบล๊กกีกับสเนกนี่คนละเรื่องกันเลย ผมว่าแบล๊กกีทำงานกับเราไม่ได้เต็มที่แน่ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต อีกอย่าง การรวมตัวครั้งนี้ก็ลงตัวดีอยู่แล้ว ผมไม่เคยคิดที่จะรวมตัวโดยให้แบล๊กกีกลับมาเลย เคยชวนเขาว่ามารวมยูเนียนโชว์กันสักรอบดีไหมเท่านั้นเอง เราเลือกที่จะทำงานและทำอัลบัมร่วมกับเจสัน ก็ต้องขอโทษแฟนเพลงด้วยที่การกลับมารวมตัวใหม่ครั้งนี้ปราศจากแบล๊กกี
หลังจากแบล๊กกีออกจากวงไป ก็มีมือเบสอีกหลายคน เอริก ฟอเรสต์ก็เล่นเบสและร้องนำได้ และทำอัลบัม Phobos ในปี97 ร่วมกัน แต่พอเสร็จทัวร์อัลบัมนี้แล้วทำไมถึงหยุดทำงานกันล่ะครับ มีแต่อัลบัม Lives กับอัลบัมเฉพาะกิจ Kronik ออกมา
เราไม่ได้ทำอะไรในสตูดิโอเลย เล่นโชว์แค่ 2-3 ครั้ง แต่เราทัวร์รอบโลกตอนออก Kronik นะ ดันเกิดรถชนที่เยอรมนี จากนั้นก็มีแต่เรื่องซวยเกิดขึ้นกับเรา ตอนนั้นนะ เอริกกระเด็นออกจากรถแวน มีแผลที่หลัง 5 แห่ง ขาหักด้วย ต้องพักฟื้นในโรงพยาบาลร่วมปี เรารอให้เขาหายดี แล้วออกทัวร์กับ Iron Maiden, Neurosis, Therion แต่ขวัญและกำลังใจของ Voivod หมดไปแล้ว ปลายปี2000 เราจึงตัดสินใจยุบวง
อัลบัมในยุคที่มีเอริกอยู่ด้วยมีพัฒนาการและมีจุดแข็งอยู่มาก แต่เมื่อฟังอัลบัมใหม่ที่สเนกร้อง ปรากฏว่าเขามีพลังเสียงที่เหมาะสมกว่ามาก
ผมก็รู้สึกอย่างนั้น หลายคนบอกว่าสเนกนี่แหละเหมาะสมกับ Voivod ที่สุดแล้ว สไตล์ของเขาเป็นสิ่งที่เมตัลยุคใหม่ต้องการ จริงๆแล้วเราไม่ได้ไล่เขาออกจากวง เขาเป็นคนตัดสินใจเอง และเราก็ยอมรับในการตัดสินใจของเขา เมื่อเราหานักร้องที่เลียนแบบเขาได้เหมือนมาร่วมวง มันก็เป็นเรื่องตลกไปเลย ดังนั้น การที่เอริกมาร่วมงานกับเราและทำให้อัลบัมมีโทนเสียงร้องที่แตกต่างออกไปก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แต่เสียงของสเนกคือเอกลักษณ์ของ Voivod เลยล่ะ
ได้ร่วมงานกับเขาอีกแล้วรู้สึกอย่างไรครับ
เหมือนย้อนกลับไปสู่ปี1994 เลย จบตรงนั้นแล้วเราก็มาเริ่มกันใหม่อีก อัลบัมใหม่ Voivod ของเราก็เหมือนงานต่อจาก The Outer Limits ด้วย
แล้วกรณีของเจสันล่ะครับ
เจสันกับพวกเราเคยทำงานร่วมกันมาตั้งแต่กลางทศวรรษที่90 แล้ว ใช้ชื่อโปรเจกต์ว่า Tarrat ตอนเราเจอกับสเนกแล้วคุยกันเรื่องกลับมาตั้งวงใหม่ พอไปบอกต่อเจสันเรื่องนี้ ดูเขาตื่นเต้นมาก ออกปากขอช่วยเรื่องโปรดักชันเลยด้วย จากนั้นประมาณปีครึ่ง เรายังคงแลกเปลี่ยนเทปกันต่อ กระทั่งกันยายนปี2002 เราไปลงมือทำปรีโปรดักต์กันที่สตูดิโอของเขา ซึ่งทำให้เขาตัดสินใจทำงาน กับ Voivod แบบเต็มตัวเลย วันที่ 22 กันยายน นั่นแหละ
เจสันร่วมแต่งเพลงชื่อ M-Body ในอัลบัม Phobos ด้วยใช่ไหม
ครับ เราสนุกมากที่ได้ทำงานกับเขา การเลือกเพลงและทำงานกับเขาจึงเป็นธรรมชาติมาก
แพ็กเกจอัลบัมใหม่ค่อนข้างเรียบง่ายและเตะตานะครับ มันบ่งบอกถึงการกลับมาของ Voivod ได้เป็นอย่างดี
ช่าย ผมอยากให้ปกหน้าเอาไปตั้งโชว์ตามร้านขายแผ่นได้ด้วย เราหันไปใส่ใจกับความละเอียดของบุ๊กเลตมากกว่า เคยมีหลายเสียงบอกว่าปกของ Voivod ซับซ้อนเกินไป ถ้าเป็นปกแผ่นเสียงสมัยปลายยุค80s มันคงเวิร์กมากแน่ แต่นี่มันยุคของซีดีแล้ว จะทำให้แยกแยะปกของ Voivod กับวงอื่นๆยาก หนนี้เราทำแบบมองปราดเดียวรู้ทันที
ปกรุ่นก่อนๆของวงใช้งานแอร์บรัชบ่อยมาก แต่ตอนนี้ต้องพึ่งคอมพิวเตอร์กราฟฟิกกันแล้วสินะครับ
ช่าย เราใช้คอมพิวเตอร์ช่วยทำปกมาตั้งแต่ชุด Nothingface แล้วละ เราเขียนงานกันตอนออกทัวร์และอยู่ในสตูดิโอ แล้วเอามาสแกน เราใช้โปรแกรม Illustrator ของ Adobe และ Photo Shop ทำดิจิตัลแอร์บรัชเพิ่มสีเข้าไป ปกของ Negatron กับ Kronik ใช้โปรแกรม 3D ที่เรียกว่า Soft Image ทำ เป็นซอฟต์แวร์แบบเดียวกับที่ทำกราฟฟิกในหนัง Toy Story ตอนนี้เราไม่ต้องวาดภาพกันเองอีกแล้ว แค่ร่างภาพอย่างเดียวเท่านั้น
ตอนนี้คุณฟังงานของใครบ้างครับ
ผมชอบวงพังก์มาก ก็ฟังวงชื่อ The Internation Noise Conspiracy แล้วก็ชอบ Tool ด้วย ชอบ ไซเคดิลิกยุคเก่าๆ ที่ฟังบ่อยก็วง Apples in Stereo กับ Of Montreal พวกเขาไม่ใช่วงจากมอนทรีออล นะ เป็นวงอเมริกันนี่แหละ (หัวเราะ) งานเยี่ยมจริงๆให้อารมณ์แบบ White Album ของ The Beatles ผสมกับเซิร์ฟซาวน์ดแบบ The Beach Boys นอกจากนี้ผมว่า The Hives ก็แจ๋วนะ ผมเป็นแฟนตัวยงของดนตรีเก่าๆยุค60s ร็อคสมัยนี้ก็ชอบฟัง พวก White Stripes นี่ก็ชอบ ผมฟังทั้งของเก่าและของใหม่ ส่วนพิกกี (กีตาร์) มันฟังโปรเกรสสีฟแบบพวก King Crimson นานๆฟังดนตรีแบบนี้ทีก็เยี่ยมนะ
แล้วคิดอย่างไรกับการที่เจสันไปเล่นเบสให้กับวงของออซซี
นั่นดิ คุณว่าไม่เจ๋งเหรอ
อ้าว แล้วไม่มีปัญหากับ Voivod หรือครับ
ตรงกันข้ามเลย มันสมบูรณ์แบบมาก การไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับออซซีถือว่าเจ๋งหมด ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนก็ตาม นั่นเพราะพวกเราทุกคนได้รับอิทธิพลมาจาก Black Sabbath อีกอย่างหนึ่ง มันจะทำให้ชื่อของ Voivod เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย แล้วฝันก็เป็นจริงเมื่อพวกเราได้มีส่วนร่วมในงาน Ozzfest ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องบอกว่าเป็นความเก๋าและเพราะฝีมือของเจสันด้วยแหละ มันมีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้นกับพวกเราและกับเขา ดังนั้นพวกเราก็เลยดีใจกันมาก เวลาที่เจสันยุ่งอยู่กับการบันทึกเสียงงานหรือออกทัวร์กับออซซี พวกเราก็จะไปรวมตัวแต่งเพลงอยู่ในมอนทรีออล ไม่มีปัญหาอะไรเลย
War and Pain 1984 |
RRROOOAAARRR 1986 |
Killing Technology 1987 |
Dimension Hatross 1988 |
Nothingface 1989 |
Angel Rat 1991 |
The Outer Limits 1993 |
Negatron 1995 |
Phobos 1997 |
Kronik 1998 |
Lives 2000 |
Voivod 2003 |
| 
Music
Top