หลังจากที่หนังแฟรนไชส์สยองขวัญแนวเกรดบีสองเรื่องนี้ทำกันมารวมๆ กันแทบจะเกือบสิบกว่าภาคแล้ว การจับทั้ง เฟรดดี้ จากซีรี่ส์ Nightmare on Elm Street และ เจสัน จาก ศุกร์ที่ 13 Friday the 13th มาอยู่ในหนังเรื่องเดียวกัน ถือว่าเป็นไอเดียพิเรนท์ๆ ที่น่าสนใจ รายแรกนั้น เป็นจอมเจ้าเล่ห์ที่จัดการเหยื่อผ่านทางความฝันที่ดูเหมือนจริง และนิยมเล่นสนุกกับความกลัวของเหยื่อ ส่วนรายหลังภายใต้หน้ากากฮอกกี้ ก็เต็มไปด้วยความรุนแรง โหดเหี้ยมอย่างไม่มีข้อแม้ และตรงไปตรงมา (ฆ่าเป็นฆ่า ไม่มีลูกเล่น ฆ่าแบบซื่อๆ ดุ่ยๆ เลย)

เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี ผู้คนในหนังโดยเฉพาะที่เอล์มสตรีท และคริสตัลเลค เริ่มลืมเลือนความน่ากลัวของฆาตกรปีศาจทั้งสองตัวนี้ไปแล้ว และผู้คนที่เป็นผู้ชมเองก็เริ่มจะเบื่อเซ็งกับหนังภาคต่อของสองปีศาจนี่เช่นกัน สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น เมื่อ เฟรดดี้ ครูเกอร์ (รับบทโดย โรเบิร์ท อิงลันด์ เจ้าเก่า) ทนเบื่ออยู่ในนรกไม่ไหว เพราะไม่มีใครพูดถึงเขาด้วยความหวาดกลัวอีกแล้ว เลยคิดอุบายไปปลุก ผีหน้ากากฮอกกี้ อย่าง เจสัน ให้มาช่วยสร้างกระแสความกลัวขึ้นอีกครั้งที่ถนนเอล์ม และแน่นอน เป้าหมายก็อยู่ที่บ้านหลังเดิมหลังนั้น (ทำไมยังมีคนอยู่ ไม่รื้อทิ้งหรือย้ายหนีเสียทีก็ไม่รู้) เที่ยวนี้นางเอกของเรื่องคือ ลอรี่ (มอนิก้า คีน่า) ต้องรับกรรมผจญกับสองวายร้ายนี่ไปเต็มๆ พร้อมกับปมลึกลับบางอย่างในอดีตเกี่ยวกับพ่อของเธอเอง

ตัวหนังเปิดตัวด้วยมุขทบทวนความจำคนดูกับฉากโหดๆ ในภาคก่อนๆ ของทั้งสองแฟรนไชส์ เรียกว่าเป็นการอุ่นเครื่องคนดูก่อนเข้าสู่เนื้อเรื่องจริงในภาคนี้ ที่ก็ยังคงสนุกไปกับฉากฆ่าแบบโหดๆ เลือดสาดพุ่งกระจุยแดงเถือกท่วมจอกันไปเรื่อยๆ มาตบมุขเข้าทีเด็ดของภาคนี้ด้วยการที่เจสันเริ่มฆ่าคนอย่างสนุกมือเกินความควบคุมของเฟรดดี้ และเฟรดดี้ก็เริ่มรู้สึกว่าเสียเหลี่ยมที่ดันมาปลุกไอ้บ้าหน้ากากฮอกกี้นี่เข้า ไคลแมกซ์ของเรื่องเลยกลายเป็นการปะทะกันระหว่างสองตัวร้ายนี่ โดยมีกลุ่ม ลอรี่ นางเอกและเพื่อนๆ คอยเป็นตัวเร่งปฏิกริยาให้ตรงนี้ถือว่าเข้าใจคิดได้เก๋ไก๋ไม่เบา เพราะแน่นอนว่าคนดูโดยเฉพาะแฟนๆ หนังสยองขวัญเกรดบีส่วนใหญ่ต่างก็ต้องอยากเห็นการปะทะแบบนี้อยู่แล้ว รักใครชอบใครก็เลือกเชียร์กันเองนะครับ ฉากปะทะของสองปีศาจนี่ดูๆ ไปแล้วก็เหมือนกับเป็นการปะทะกันของยอดมนุษย์ซุปเปอร์ฮีโร่เสียด้วยซ้ำไป

และจะว่าไป ตัวหนังภาคศึกสองปีศาจนี้ ก็มีจุดเด่นอยู่ที่การปะทะกันของฆาตรกรทั้งคู่แค่นี้จริงๆ องค์ประกอบอื่นๆ ที่เหลือในเรื่องก็แทบจะไม่ต่างอะไรจากหนังภาคก่อนๆ ของทั้งสองเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการหลอกให้คนดูสะดุ้งตกใจในจังหวะแรก ก่อนที่จะผงะกับการฆ่าอย่างเลือดสาดในจังหวะต่อมาโดยผ่านทางจุดเด่นของสองแฟรนไชส์นี้คือ ฉากลุ้นว่าฝันหรือตื่นอยู่ของตัวละคร ในแบบของเฟรดดี้ และฉากฆ่าแบบรุนแรงทื่อๆ ของเจสัน พวกนี้ถือว่าเป็นมุขเก่า ที่กลายเป็นของชินตาสำหรับคนดูไปแล้ว ถึงแม้ยังจะสะดุ้งตกใจอยู่ แต่ก็ไม่ได้เป็นการลุ้นเอาใจช่วยตัวละครที่เป็นเหยื่อแล้ว เพราะรู้ว่ายังไงก็ไม่รอดกันแน่ ถ้าไม่ใช่ตัวเอก เหมือนจะกลายเป็นการลุ้นว่าเหยื่อจะถูกฆ่าได้วิตถารพิสดารแค่ไหนกันไปเสียมากกว่า

เป็นปกติที่หนังเกรดบีในแนวสยองขวัญแบบนี้จะเน้นความบันเทิงเป็นหลัก เหตุผลและหลักทางศีลธรรมย่อมตามมาทีหลัง เน้นความสนุกสะใจคนดูไว้ก่อน แฟนหนังแนวนี้เองก็คงชอบที่จะถูกทำให้สะดุ้งตกใจ หรือแหวะอี๋ไปกับฉากเละๆ อยู่แล้ว Freddy Vs. Jason ถือเป็นความบันเทิงในแนวนี้ที่ไม่น่าผิดหวังอะไรนักครับ ครบสูตรสะดุ้งสยอง และแน่นอนขาดไม่ได้กับฉากโป๊วับๆ แวมๆ (แต่บางฉากก็เห็นกันจะๆ เลยนะครับ ไม่ค่อยวับแวมเอียงอายเท่าไหร่) ถูกใจทั้งหนุ่มๆ และสาวๆ ขี้กลัว ที่กลัวก็กลัวแต่ยังชอบแอบดูผ่านตามไรนิ้วมือที่ยกขึ้นปิดหน้า สยองขวัญบันเทิงกันตามรสนิยมนะครับของแบบนี้ เพราะเชื่อขนมกินได้เลยว่า หนังแนวนี้ไม่มีวันตายไปง่ายๆ เหมือนกับความตายยากตายเย็นของฆาตกรปีศาจเหล่านี้แหละครับ และนี่ก็อาจจะกลายเป็นเทรนด์แฟชั่นใหม่ของหนังแนวนี้ ที่ต่อไปคงมีการข้ามเวลา ข้ามแฟรนไชส์มาร่วมแจมนองเลือดและปะทะกันอีก คงจะได้ดูกันไปอีกนานเลยครับ

แหล่งที่มา : Reviewed by : สุกรี, www.movieseer.com

สินค้าที่เกี่ยวข้อง คลิกดูรายละเอียด