Home Shop Mag'z Member Basket Thai / English Site Map
Webboard Book Toy Music Movie
Music
  >  home >  music >  Interview > 
    Lost Soulแหล่งที่มา :Interviewed by P.I.
หนังสือ Metal Mag / 2003
Lost Soul

“บัลลังก์ของ Vader อาจโค่นลงได้ในไม่ช้า เมื่อยอดวงจากโปแลนด์ที่

อาจถูกมองข้ามนาม Lost Soul ได้ปล่อยผลงานล่าสุดที่ชื่อ Ubermensch (Death Of God) ออกมาแล้ว ข้อความดังกล่าวจะจริงเท็จแค่ไหน Adam Sierzega มือกลองของวงจะมาให้คุณตัดสินเองกับการสัมภาษณ์ในครั้งนี้”

สวัสดีครับ Adam เป็นอย่างไรบ้างครับ รู้สึกดีจริงๆ ที่ได้คุยกับคุณวันนี้

สวัสดีเช่นกันครับ ขอบคุณที่ถามถึง ผมสบายดีครับ และทุกอย่างก็กำลังไปได้สวยเลยล่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า...

โอเคครับ อย่างแรกเลยช่วยเล่าคร่าวๆเกี่ยวกับประวัติของวงหน่อยให้พวกเราได้รับรู้กันหน่อย แล้วทำไมพวกคุณถึงเลือกใช้ชื่อวงว่า Lost Soul

ได้เลยครับ Lost Soul รวมตัวกันเมื่อปี 91 ถึงตอนนี้พวกเราได้ทำเดโมกันขึ้นมา 3 ชุดแล้ว ได้แก่ ชุด Eternal Darkness ในปี’93 Superior Ignotum ปี’94 และ ...Now is Forever... ในปี’98 ซึ่งเดโมตัวที่ 3 นี้ถูกนำไปรวมอยู่กับ Split CD อยู่ 2 อันด้วยกัน อันแรกชื่อ Disco’s Out, Slaughter’s In ออกโดยสังกัด Novum Vox Mortis และ Polish Assault โดยสังกัด Relapse Recs. จากนั้นเราก็ได้ออกอัลบัมแรกที่ชื่อ Scream of the Mourning Star กับสังกัด Relapse Records ส่วนในตอนนี้มันเป็นเวลาของระเบิดลูกล่าสุดของเรา นั่นคืออัลบัมล่าสุดที่ชื่อ Ubermensch (Death Of God) โดยสังกัด Osmose Prod. สมาชิกล่าสุดของวงตอนนี้ประกอบไปด้วย Jacek (guit., voc.), Piotr (guit.), Pawel (bass guit.) และผมรับหน้าที่หวดกลอง ผมยังจำได้ว่าแต่ก่อนพวกเราใช้ชื่อว่า Hades แต่เราก็ต้องเปลี่ยนมันจนได้เมื่อมีวงจากนอร์เวย์ที่ใช้ชื่อนี้กันอยู่แล้ว หลังจากนั้นเราก็มาโดนกับเพลงที่ชื่อ Lost Souls จากอัลบัม Testimony of the Ancient ของวง Pestilence เราตัดสินใจดัดแปลงมันนิดหน่อยให้เป็น Lost Soul นี่ล่ะที่มาของมัน

Lost Soul เป็นวงที่มาจากโปแลนด์ที่เก่าแก่วงหนึ่ง เราจึงอยากจะย้อนถามถึงอดีตที่ผ่านมาของพวกคุณสักหน่อยนะ พวกคุณยังจำตอนที่พวกคุณออกเดโม“Eternal Darkness กับ Superior Ignotum ได้ไหมครับ บอกพวกเราทีสิว่าการตอบรับจากแวดวงใต้ดินเป็นอย่างไรบ้าง พวกคุณพอใจกับเดโมนั้นกันมากแค่ไหน

ได้ครับ พวกเราอยู่ในแวดวงใต้ดินมากว่า 10 ปี นั่นก็เพราะพวกเราเริ่มมาเล่นดนตรีกันตั้งแต่อายุ 14-15 มันเป็นช่วงเวลาที่โคตรบ้าเลยนะกับการอัดเดโมแรกของเรา ผมยังจำมันได้แม่นเลย เดโมเหล่านี้ถือว่าเป็นก้าวแรกของเราในแวดวงใต้ดินของโปแลนด์เลยล่ะ แม้เราจะกล้าๆกลัวๆไปหน่อยในตอนนั้น แต่มันก็เป็นก้าวที่สำคัญทีเดียว มันทำให้เราได้เรียนรู้ประสบการณ์อีกเพียบ จริงๆแล้วผมว่า Eternal Darkness กับ Suprior Ignotum ก็เป็นเดโมที่ดีเหมือนกันนะ ผมยังชอบมันอยู่เลย ถึงแม้ดนตรีมันดูเหมือนจะง่ายๆกว่าที่เราเล่นกันอยู่ปัจจุบันนี้นะ แต่เรายังคงเล่นมันจากแรงผลักดันและอารมณ์เดียวกันแน่นอน เดโมทั้งสองอันได้การตอบรับที่ดีจากแฟนเพลงมากเลย พวกเราโคตรจะพอใจกับมันเลยล่ะ

เมื่อดูจากประวัติของทางวงที่ Osmose ส่งมาให้เราแล้วนั้น เขากล่าวไว้ว่าจุดเปลี่ยนที่สำคัญของ Lost Soul คือเดโมเทปชุด ...Now is Forever... คุณช่วยให้ความกระจ่างแก่เราทีสิ มันต่างจากเดโมอันเก่าทั้งสองอย่างไรหรือ แล้วคุณตัดสินใจที่จะเปลี่ยนสไตล์การเล่นในอัลบัมนี้หรือไง ทำไมล่ะ

พวกเราตัดสินใจที่จะเปลี่ยนสไตล์การเล่นในอัลบัมนั้นเหรอ ผมว่าไม่นะ สำหรับผมมันคือการพัฒนาและความต่อเนื่องในส่วนของดนตรีของ Lost Soul มากกว่านะ อย่างแรกเลย จุดที่มันต่างกับเดโมอันเก่าคือ ใน ...Now is Forever... เราเล่นกันเร็วมาก และมันก็มีซาวน์ดที่แน่นขึ้นกว่าเดิมด้วย เราอัดเดโมที่สองกันในปี’94 แต่เดโมนี้เราอัดกันในปี’98 คุณรู้ไหมว่าช่วงเวลานั้นมันทำให้เรามีการพัฒนาฝีมือที่จะสร้างดนตรีให้มันโหดและดีกว่าเดิมมากทีเดียว ผมเห็นด้วยกับที่คุณบอกว่า ...Now is Forever... คือเดโมที่เป็นจุดเปลี่ยนของพวกเรา ก็เพราะว่ามันทำให้พวกเราได้เห็นหนทางอันใหม่ที่เราได้มาอยู่ตรงนี้ได้นั่นเอง

ทำไมในอัลบัมนี้คุณถึงเปลี่ยนสังกัดเป็น Osmose เสียล่ะ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิว่าคุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร Herve (เจ้าของ Osmose) ติดต่อคุณโดยตรงเลยหรือเปล่าครับ

ง่ายๆเลยนะ หลังจากหมดสัญญาอันเก่า Relapse ก็ไม่มีที่ให้เราได้ซุกหัวนอนกันแล้ว พวกเขาเป็นสังกัดที่ดีมากเลยนะและผมก็มั่นใจด้วยว่าพวกเขาจะให้การสนับสนุนที่ดีกับพวกเราได้ ผมไม่รู้เหมือนกันนะ บางที Lost Soul อาจเป็นวงที่เล็กไปสำหรับพวกเขาก็ได้ อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเราได้ตกลงกับ Osmose เรียบร้อยแล้วและพวกเราก็โคตรจะพอใจกับมันเลย เราเซ็นสัญญากับพวกเขา 3 อัลบัม และ Ubermensch ก็คือเบอร์แรกสำหรับพวกเขา Mariusz เจ้าของ Empire Rec. ได้รู้จักกับ Herve พวกเขาได้คุยกันเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆของสัญญานี้ จริงๆแล้ว Mariusz ก็คือผู้จัดการวงของเรานั่นเอง คุณน่าจะรู้ไว้ว่าอัลบัมใหม่ของเราได้วางแผงในโปแลนด์ก่อนที่อื่น และตอนนี้ก็กำลังกระจายอยู่ทั่วยุโรปแล้ว Osmose คาดหวังกับยอดขายในประเทศของเราไว้สูงมากและพวกเขาก็ปฏิบัติกับเราอย่างกับว่าเราเป็นวงขึ้นหิ้งเลย Lost Soul คือวงโปแลนด์วงแรกของ Osmose ตอนนี้พวกเราก็วางใจได้แล้วกับการสนับสนุนที่เต็มที่จากพวกเขา เพราะนั่นคือสิ่งที่สำคัญกับเรามาก

ผมยังคาใจกับสังกัดของคุณอยู่นิดนึง คุณมีสังกัดอยู่ 2 แห่งในตอนนี้ พวกเขาแบ่งงานกันอย่างไร แยกพื้นที่กันหรือ

ใช่แล้ว Empire Records กระจายผลงานของเราได้แค่ในโปร์แลนด์เท่านั้น ส่วน Osmose เป็นตัวแทนที่จะกระจายงานของเรา ทั่วยุโรปและทั่วโลก

ผมยังไม่เคยได้ฟังงานก่อนของคุณอย่าง Scream of the Mourning Star เลย คุณช่วยเปรียบเทียบอัลบัมนั้นกับอัลบัมใหม่อย่าง Ubermensch ทีสิว่าแตกต่างกันหรือมีการพัฒนาด้านไหนบ้าง

เราออก Scream of the Mourning Star ในปี2000 เพลงจากเดโมสุดท้ายก็ถูกรวมไว้ในอัลบัมนี้ ผมคิดว่ามันเป็นอัลบัมที่เราเล่นกันได้โหดและเร็วอัลบัมหนึ่งเลยนะ เสียงที่ดิบในอัลบัมนี้ถูกเจือด้วยคีย์บอร์ดบางๆ พูดกันง่ายๆก็คือ เป็นอัลบัมเดธเมตัลที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้กับปิศาจตนไหนเลยล่ะ Ubermensch เป็นอัลบัมที่เร็วยิ่งขึ้นไปกว่าเก่าอีก แต่คราวนี้เราเพิ่มสีสันของคีย์บอร์ดให้มากขึ้นกว่าเก่าหน่อย มันจึงทำให้ Ubermensch ต่างจากอัลบัมเดธทั่วๆไปและเกือบทั้งอัลบัมนี้ยังให้ความรู้สึกที่ลึกลับอีกด้วย

โอเค ถ้ามีคนที่ยังไม่เคยฟังอัลบัมใหม่นี้มาถามคุณว่า ดนตรีในอัลบัมนี้มันเป็นอย่างไรบ้าง คุณจะบอกพวกเขาว่า

อย่างแรกเลย Ubermensch เป็นอัลบัมที่สำคัญกับพวกเรามาก มันได้รับเอามิติต่างๆเข้ามา พวกเรากล้าที่จะใส่อะไรใหม่ๆเพิ่มเข้าไปด้วย แต่แน่นอนพวกเราไม่เคยลืมธาตุแท้ของเรา ที่แน่นอนที่สุดอัลบัมนี้เหมาะกับคนที่อยากจะลองฟังอะไรที่โหดๆผสมไปกับบรรยากาศแบบมนต์ดำ แต่ถ้าคุณจะคาดหวังเอากับเมโลดีหวานๆอะไรแบบนั้น คุณจะต้องผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะ Lost Soul เป็นตัวแทนของดนตรีที่สุดขั้ว และศิลปะแห่งความตายอันชั่วร้าย

ใครเป็นแกนหลักในการทำเพลงของพวกคุณหรือครับ สำหรับผมแล้วนะอย่างแรกเลยที่ติดใจมากหลังจากฟังอัลบัมนี้เนี่ย คือเสียงกีตาร์ที่แน่นเหลือล้นเลย เสียงกลองที่กระหายเลือด และโซโลเจ๋งๆก็ยังมีอีกเพียบ

Jacek เป็นคนแต่งทำนองหลักในอัลบัมนี้เสียส่วนใหญ่ครับ แน่นอนทุกคนมีส่วนร่วมในการให้ความเห็นต่างๆด้วย การเรียบเรียงสุดท้ายพวกเราก็จะทำด้วยกันในการซ้อมของพวกเรา

แล้วอาวุธที่พวกคุณใช้อยู่ตอนนี้ล่ะ รุ่นอะไรกันบ้างครับ

มือกีตาร์ของพวกเราเปลี่ยนอาวุธกันใหม่เมื่อไม่นานมานี้ Jacek กับ Piotr ใช้กีตาร์ 7 สายอยู่ครับ ส่วน Pawel ใช้กีตาร์เบส 6 สาย ตอนนี้พวกเราคือวงที่สองจากโปแลนด์ต่อจาก Behemoth ที่ใช้กีตาร์อย่างนั้น ผมแน่ใจเลยว่าด้วยอาวุธพวกนี้ มันจะทำให้อัลบัมหน้าของพวกเรา ซึ่งตอนนี้กำลังทำกันอยู่ต้องน่าสนใจมากกว่าเก่าอีก ส่วนกลองนั้นตอนนี้ผมใช้ กลองชุดแบบอะคูสติกอยู่ ในสตูดิโอผมใช้ Trigger กับเบส, กลอง และ สแนร์ด้วย มันจะช่วยในท่อนที่ต้องใช้ความเร็วสูง

ในส่วนของเนื้อร้องจากอัลบัมใหม่นี้นั้น ใครเป็นคนเขียนมันหรือครับ พวกคุณต้องการที่จะบอกอะไรเป็นพิเศษกับผู้ฟังหรือปล่าว แล้วคุณได้แนวคิดมาจากที่ไหนกัน

ผมรับหน้าที่ทั้งหมดในการเขียนเนื้อร้องเองครับ มันมีความหมายกับผมมาก ผมมีความสนใจเกี่ยวกับด้านมืด, เวทมนต์อยู่แล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้คุณก็จะเจอในเนื้อร้องของเรา อัลบัม Ubermensch เป็นคอนเส็ปต์อัลบัมนะ ชื่อนี้มันมาจากหลักปรัชญาของ Nietzsche (Friedrich Nietzsche,1844-1900 นักปราชญ์ชาวเยอรมันผู้ซึ่งท้าทายต่อหลักการของศีลธรรมแบบดั้งเดิมและศาสนาคริสต์ : ผู้เขียน) คำนี้มันเป็นคำที่สำคัญมากที่สุดเพราะใจความทั้งหมดมันอยู่ที่หลักปรัชญาของเขา Ubermensch หมายถึง สิ่งที่เหนือมนุษย์ สำหรับพวกเรามันคือสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ อิสระทางความคิด มันคล้ายกับว่าเป็นหนทางที่จะไปสู่สิ่งที่สมบูรณ์ที่สุด ผมไม่ต้องการที่จะอธิบายความหมายของเนื้อร้องทั้งหมด ผมให้อิสระกับผู้ฟังทุกคนในการที่จะตีความหมายนั้น จงเบิกดวงตาของคุณให้กว้างเข้าไว้แล้วคุณก็จะเข้าใจมันเอง...

นอกจาก Ubermensch จะมีเสียงกีตาร์และกลองที่เฉียบคมแล้วมันยังแน่นขึ้นอย่างมากด้วยเสียงคีย์บอร์ดด้วย ผมอยากจะทราบว่าคนที่รับหน้าที่นี้เป็นใครกันหรือ แล้วคุณให้เขาออกทัวร์ด้วยไหม

ไลน์คีย์บอร์ดทุกไลน์บรรเลงโดย Barbara Kamieniak เพื่อนของพวกเราครับ เธอเป็นผู้หญิงที่มีพรสวรรค์มากเลยนะ เธอเล่นคีย์บอร์ดเป็นปกติอยู่แล้วกับวงของเธอ คุณก็รู้อยู่ว่าเราก็ต้องการได้ใครสักคนที่สามารถช่วยสร้างไลน์คีย์บอร์ดเจ๋งๆให้เข้ากับเพลงของเรา พวกเราได้เจอกับเธอและเธอก็ตกลงที่จะลองดู ในการทัวร์ของเรานั้นพวกเราไม่ใช้คีย์บอร์ดเลย พวกเราจึงต้องเน้นกับส่วนที่โหดๆกันหน่อย แน่นอนเราใช้เสียงต่างๆกับอินโทรและเอาต์โทรของเราบ้างแต่มันก็แค่นั้นแหละ นอกนั้นคือการนองเลือดหมด!

เพลงบรรเลงในอัลบัมนี้อย่างเช่น Incinerate, The Crown และ Apeiron มันให้ความรู้สึกที่หดหู่ดีเหลือเกิน ใครกันที่เป็นคนทำเพลงเหล่านี้

ใช่ เพลงที่คุณว่ามาโคตรเจ๋งเลย ผมคิดว่ามันเป็นสร้างสรรค์ของ Lost Soul ที่ใหม่มากเลยนะ Krzysztof มือเบสคนเก่าของเราเป็นคนสร้างเพลงเหล่านั้นทั้งหมด ตอนที่ผมฟังอัลบัมนี้ครั้งแรกผมก็รู้เลยว่า Ubernensch เป็นอัลบัม เดธเมตัลที่ต่างกับอัลบัมเดธทั่วๆไป Krzysztof กับผมเป็นแฟนเพลงพวก Dark Wave/Industrial แบบวง Desideri Marginnis, Current’93, Coil, Raison De’tre ...etc พวกเราอยากที่จะแทรกอะไรแบบนั้นไว้ในเพลงของเราบ้าง แม้มันอาจเป็นจุดที่ค่อนข้างเสี่ยงแต่มันก็ประสบผลสำเร็จ 100%

คุณเล่นกับ Jacek มาเกือบ 13 ปีแล้ว อะไรคือสิ่งสำคัญที่ทำให้พวกคุณร่วมงานกันได้นานขนาดนี้

กิเลสและความหลงใหลเป็นคำตอบเดียวของผม ดนตรีคือทางออกที่เป็นอมตะของผม

ผมชอบเพลงในแทร็กที่ 10 กับ 11 มากเลยนะ มันทำให้ผมรู้สึกเมามันมากเลย คุณช่วยบอกผมเกี่ยวกับแทร็กที่ 10 ที่ชื่อ Adoration of Violet หน่อยสิว่าไอ้คำว่า Violet เนี่ยมันหมายถึงอะไร รวมถึงเพลง The One You Seek ด้วยนะ ช่วยอธิบายที่มาที่ไปของมันหน่อย

Violet คือสีของวังวนแห่งความลึกลับของสิ่งที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ มันเหมือนกับสิ่งที่เราไม่รู้จักและไม่คุ้นเคยเลย ดังนั้น Adoration of Violet จึงเหมือนกับการสรรเสริญมนต์ดำและด้านมืดของชีวิต Krzysztof เป็นคนที่เขียนเพลงนี้ซึ่งเนื้อหามันจะต่างกับเพลงอื่นๆโดยสิ้นเชิง ส่วนในเพลง The One You Seek นั้น มีเนื้อเพลงที่สำคัญกับผมมากทีเดียว เบื้องหลังเนื้อเพลงนี้มาจากหนังสือที่ชื่อ Thus Spake Zarathustra ของ F. Nietzsche โดยตรง บางครั้งไอ้พวกคำปรัชญาทั้งหลายมันก็ใช้ไม่ได้กับทุกคนหรอก และถ้าคุณคิดว่าคุณแข็งแกร่งพอ คุณก็ไม่ควรที่จะหันหลังกลับไปดูพวกที่ “อ่อนแอและตาบอด” แล้ว คุณเข้าใจที่ผมพูดไหม? พวกเราไม่ใช่คนที่จะรักษาพวกมัน!

พวกคุณไปรับเอาอิทธิพลทางดนตรีมาจากใครหรือ ผมได้กลิ่นของแบล็กในอัลบัม Ubermensch ด้วยนะ มีวงเดธ/แบล็กวงใดที่เป็นแรงบันดาลใจให้พวกคุณเล่นดนตรีกันเป็นพิเศษหรือเปล่า แล้วช่วงนี้มีวงเดธ/แบล็กวงใดบ้างที่พวกคุณกำลังฟังกันอยู่ครับ

ผมคิดว่าตอนนี้เรากำลังยืนอยู่บนกึ่งกลางระหว่างทางของเดธกับแบล็กอยู่นะ มันเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับเรามากเลยล่ะ จริงๆแล้วพวกเราชอบดนตรีในแบบที่ต่างๆกันออกไปนะ ดนตรีทุกประเภทที่เราได้ฟังนั้นล้วนจุดประกายให้พวกเราทางใดทางหนึ่งแหละ แรกเลยจริงๆเนี่ยมันก็มีวง Morbid Angel, Death หรือ Slayer นี่ล่ะที่พวกเราชอบกัน แต่ช่วงนี้ผมกำลังฟังวงพวก Dark Wave อยู่หลายวงเลยนะ แต่ถ้าคุณจะถามว่าวง เดธ/แบล็กวงใดที่ผมฟังอยู่ล่ะก็ คงเป็น Behe-moth, Nile, Emperor (RIP), Zyklon และวงอื่นๆอีกเพียบ

ผมขอพูดถึงปกของอัลบัมนี้กันหน่อยนะ ดูเหมือนว่า Jacek Wisniewski จะทำหน้าที่ได้ดีมากเลยคุณไปได้เขามาร่วมงานได้ยังไงครับ ผมเห็นพญานาคกับพระเจ้าที่ถูกตรึงกางเขนอยู่ด้วย พวกคุณพอจะบอกได้ไหมว่าคุณต้องการจะบอกอะไรจากไอ้รูปทั้งหลายนี่

Jacek Wisniewski คือจิตรกรที่ดังมากเลยในแวดวงใต้ดินของโปแลนด์ เขาสร้างผลงานต่างๆไว้มากมายกับ Vader, Marduk, Grave, Excommu-niom พอ Maruisz จาก Empire Rec. มาบอกกับพวกเราว่า Jacek จะเป็นคนที่มาทำปกให้พวกเรานะ พวกเราก็ตกลงทันที ผมจำได้ว่าพวกเราไม่มีไอเดียที่แน่นอนสำหรับปกเราเลย Jacek เลยทำงานออกมาให้พวกเรา 2 ชิ้นเพื่อที่จะให้เราเลือก ทั้งคู่เป็นงานที่เยี่ยมมากเลยแต่เราก็ตัดสินใจกันไม่ได้อยู่ดีว่าอันไหนที่จะเหมาะสมกับปกของเรา จนวันหนึ่งผมดันนึกถึงภาพของปกที่ผมอยากได้มานานแล้วออก ผมเลยอีเมล์ไปหา Jacek เกี่ยวกับรายละเอียดทั้งหมด เท่านั้นแหละปกของเราก็ออกมาได้เจ๋งอย่างที่เห็น ปกของอัลบัม Ubermensch นี้มันมีความหมายอยู่เยอะมากนะและมันก็ให้ความรู้สึกราวกับว่าอยู่ในนรกเลย แค่นี้คุณคงเข้าใจนะ

แล้วโลโกของคุณนี่ใครเป็นคนคิดครับ คุณพยายามให้มันแสดงออกมาว่าพวกคุณก็เป็นศัตรูของพระเจ้าด้วยอย่างนั้นใช่ไหม แล้วพวกคุณเคยใช้ โลโกอันอื่นมาก่อนหน้านี้ไหม

ผมเองล่ะที่เป็นคนออกแบบโลโกในอัลบัมเต็มแรกของพวกเรา โลโกอันอื่นได้ถูกนำเข้ามาใช้แทนโดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆเลยนะ พวกเราแก้ไขอะไรไม่ได้เลย ผมโคตรเซ็งเลย! หรือบางทีบางคนคงกลัวผลกระทบของดาวห้าแฉกบนโลโกของเรามั้ง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะโลโกที่คุณเห็นในอัลบัม Ubermensch นี่เป็นโลโกดั้งเดิมของพวกเราเลยล่ะ พวกเราเป็นศัตรูของพระเจ้าหรือเปล่างั้นเหรอ...พระเจ้าน่ะเหรอ? ..ช่างหัวมันสิ พวกเราจะไม่ทำอะไรที่งี่เง่าให้กับหนทางชีวิตของพวกเราเด็ดขาด นี่แหละคือพระเจ้าของเรา

ซาวน์ดของอัลบัมนี้ออกมาดีมากเลยนะ ซึ่งส่วนหนึ่งมันน่าจะมาจากการที่คุณใช้บริการของ Tower Studio ด้วยใช่ไหมครับช่วยเล่าถึงบรรยากาศระหว่างการบันทึกเสียงกันบ้างสิแล้วพวกคุณใช้เวลากันนานแค่ไหนในการทำอัลบัมนี้

ใช่ครับ Tower Studio มีส่วนอยู่ มันเป็นสตูดิโอที่ใหม่มากเลยนะและที่นั่นก็ให้ประสบการณ์ใหม่ๆแก่เราด้วย พวกเราใช้เวลาเกือบเดือนในการบันทึกเสียงอัลบัมนี้ ผมว่าที่เสียงมันออกมาคมอย่างนั้นก็เพราะพวกเราใช้เวลาในการปรับเสียงนานมากเลยนะ และที่นั่นยังมีอุปกรณ์ที่ดีอยู่มากด้วย พวกเราพอใจกับมันมากครับ

แล้วการทำงานกับ Arek Malczewski โปรดิวซ์เซอร์ของพวกคุณเป็นไงบ้างครับ คุณช่วยเล่าถึงการทำงานของเขาทีสิว่าเขามีส่วนร่วมอย่างไรบ้าง

Arek เป็นคนที่มีพรสวรรค์มากเลย ตามความเห็นของผมนะเขาเป็นหนึ่งในมือเอนจิเนียร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโปแลนด์เลยล่ะ เขายังเป็นขาเดธเมตัลตัวจริงด้วย พวกเราไม่พบปัญหาอะไรในการทำงานกับเขาเลย เขารู้อยู่แล้วว่าเราต้องการอะไรจากเขาบ้าง ผมรู้จักงานของเขาจากอัลบัมของ Behemoth และ Devilyn พวกเราคุยกันอยู่นานทีเดียวเกี่ยวกับงานในอัลบัมนี้และผมก็คิดว่าประสบการณ์ที่มากมายของเขาจะช่วยพวกเราในการสร้างซาวน์ดที่หนักแน่นได้ Arek เหมือนสมาชิกคนที่ห้าของเราเลยล่ะ

ช่วยเล่าให้เราฟังเกี่ยวกับโชว์ล่าสุดบ้างสิ มีโชว์ไหนบ้างที่คุณยังไม่เคยลืมเลย แล้วคุณเคยมาแสดงแถบเอเชียกันบ้างไหม

ตั้งแต่ตั้งวงกันมาพวกเราเล่นกันมาหลายที่เลยนะ หนึ่งในนั้นมันก็มีเหตุการณ์ที่ลืมไม่ลงอยู่ด้วยแหละแต่ผมอยากพูดถึงคอนเสิร์ตที่เราพอใจกันมากกว่า นั่นก็คือ Thrash ’Em All Fest. ที่เราได้ไปร่วมเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วนี่เอง มันประกอบไปด้วยการแสดงของวงเจ๋งๆต่างๆ เช่น Monstrosity, Vomitory, Trauma... มันเป็น 10 วันที่นรกแตกมาก ผมอยากไปเล่นที่เอเชียสักครั้งนะ Vader ได้ไปเปิดการแสดงที่ญี่ปุ่นมาหลายครั้งแล้วแล้วพวกเขาก็มาเล่าให้เราฟังถึงความบ้าคลั่งของคนดูที่นั่นทุกที

ถ้าคุณถูกเชิญให้ไปเล่นคัฟเวอร์ในงานทริบิวต์ให้แก่วงสักวงหนึ่ง วงอะไรที่คุณจะตกลงทันที

Emperor ผมมีความเคารพในวงนี้มากเหลือเกิน

จากประสบการณ์ที่มากมายของ Lost Soul คุณช่วยแสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานที่ที่คุณเคยไปแสดงสดให้พวกเราฟังหน่อยสิครับว่า การเล่นในผับเล็กๆกับการเล่นโชว์ใหญ่ๆนั้นมันต่างกันยังไงแล้วคุณชอบอันไหนมากกว่ากัน

พวกเรายังไม่ค่อยได้แสดงสดในสถานที่ใหญ่กันมากนักนะ ล่าสุดที่เล่นกันก็คือที่ Metalmania Fest. ที่จัดขึ้นที่โปแลนด์ มันเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในโปแลนด์เลย พวกเรารู้สึกกดดันกันมากเลยนะที่ได้เล่นต่อหน้าคนถึง 3,000 คนที่บ้าคลั่งไปกับดนตรีของเรา มันเจ๋งจริงๆ แต่ถ้าให้พูดกันตรงๆนะไม่ว่าพวกเราจะไปเล่นกันที่ไหนมันก็ไม่ต่างกันเลยล่ะ พวกเราเอาจริงกับทุกโชว์!

พวกคุณแต่ละคนมีงานหรือไซด์โปร-เจ็กต์ กันบ้างไหม เล่าถึงยามว่างของคุณหน่อยสิครับ

Lost Soul คือวงวงเดียวของพวกเรา แน่นอนทุกคนในวงมีงานประจำทำกันอยู่แล้วแต่มันก็ไม่มีอะไรน่าสนใจนักหรอก แล้วเวลาว่างจากการทำงานก็คือเต็มที่กับ Lost Soul นั่นเอง นี่หละวิถีชีวิตของพวกเรา

มาถึงคำถามสุดท้ายแล้ว พวกคุณเคยได้ยินหรือรู้จักวงที่มากจากทางแถบเอเชียกันบ้างไหมครับ แล้วพวกคุณวางแผนสำหรับอนาคตกันบ้างหรือยัง เช่นทัวร์เอเชีย, เวบไซต์, เมอร์เชนไดส์ต่างๆ

โทษทีนะ ผมไม่รู้จักวงที่มาจากเอเชียเลยล่ะ ผมได้ยินมามากทีเดียวเกี่ยวกับแวดวงทางเอเชียแต่น่าเสียดายที่ผมไม่มีโอกาสได้ฟังเลย ก็อย่างที่บอกไว้แล้วว่าเราอยากไปทัวร์เอเชียเหมือนกัน เช่น ญี่ปุ่นหรือไทยทำไมไม่ได้เล่า ตอนนี้เราจะเริ่มทัวร์ที่โปแลนด์กันในเดือนมิถุนายนนี้ จากนั้นในเดือนพฤศจิกายนเราคงจะออกทัวร์ทางแถบยุโรป รายละเอียดคงจะมีในไม่ช้า อย่างไรก็ตามถ้าพวกคุณต้องการรู้ข้อมูลที่มากกว่านี้นะลองเข้าไปที่ www.lostsoul.metal.pl ดูได้ครับ

โอเค ขอบคุณมากจริงๆสำหรับการให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ มีคำทิ้งทวนแก่ชาวไทยหัวเหล็กกันบ้างไหมครับ

ขอบคุณมากเช่นกัน มันเป็นการสัมภาษณ์ที่เจ๋งดี ฮิ ฮิ ขอบคุณมากที่สนับสนุนพวกเรา ผมหวังว่าจะเจอพวกคุณทุกคนในโชว์ของพวกเราสักวัน!

  • สินค้าที่เกี่ยวข้อง
    คลิกดูรายละเอียด

  •  

    Top
    E-Mail

    Password


    Community
    Activity
    Photo Contest
    Bey Blade
    Cartoon 9
    Chat Room
    D-3
    D-Terminal
    D-Power
    Digimon
    Download
    Market Place
    Micro pet
    Quiz
    Can not select dB