Home Shop Mag'z Member Basket Thai / English Site Map
Webboard Book Toy Music Movie
Music
  >  home >  music >  Interview > 
    Stratovariusแหล่งที่มา :text by Anusorn Stirarat (editor in chief)
หนังสือ Metal Mag / 2003
Exclusive Interview
Stratovarius

Stratovarius เป็นวงเมโลดิก เมตัล ที่มีกลิ่นอายของสปีด/เพาเวอร์และนีโอ-คลาสสิกมาเจือจนทำให้ทั่วโลกเริ่มรู้จักวงเมตัลจากฟินแลนด์มากขึ้น และเป็นวงที่ออกผลงานมาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งในบ้านเราก็เคยมีผลงานของวงนี้ออกมาในรูปแบบของเทปคาสเสตต์หลายชุดด้วยกัน ล่าสุด อัลบัม Elements Part 1 ออกมาในรูปแบบซีดีเป็นครั้งแรกโดยสังกัดใหญ่ BMG ที่ได้สิทธิ์ในการจัดจำหน่ายในประเทศไทยจาก JVC Victor Japan ทำให้วงเมตัลที่มีอยู่ดาษดื่นในสังกัดกำลังดาหน้าออกมาอวดโฉมให้เมตัลเฮดในบ้านเราได้ฟังกันอย่างสาแก่ใจ

Elements Part 1 เป็นสตูดิโออัลบัมชุดที่ 9 ของวงเข้าไปแล้ว และแว่วข่าวมาว่า Part 2 จะวางภายในปลายปีนี้ด้วยซ้ำ พลังของสมาชิกในวงและ ติโม โทลกิ มือกีตาร์ของวงดูจะเหลือเฟือกันจริงๆ เพราะสมาชิกแต่ละคนก็มีโปรเจกต์และวงเฉพาะกิจของตัวเองกันเกือบทั้งนั้น เราจะยิงคำถาม ติโม โทลกิ เกี่ยวกับอัลบัมใหม่และการออกทัวร์ ในฐานะที่เขาเป็นแกนหลักของวงมาตลอด มาอ่านกันเลยครับ

หลังจากที่พวกคุณหยุดการทำงานไปประมาณ 2 ปีครึ่ง ในที่สุด Stratovarius ก็กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับอัลบัมใหม่ Elements Part 1 รู้สึกอย่างไรกับการได้กลับมาลุยงานกันอีกครั้งหนึ่งครับ

แหม มันเป็นช่วงเวลาที่พร้อมสมบูรณ์จริงๆ เราตัดสินใจพักผ่อนกันให้เต็มที่ แล้วกลับมาครั้งนี้ เราก็จะลุยงานกันอย่างหนักอีกครั้ง

ระหว่างที่ Stratovarius ไม่มีผลงานออกมา แต่คุณก็ยังทำอัลบัมเดี่ยวชุดใหม่ชื่อ Hymn to Life ออกมาเมื่อต้นปี2002 นี่ครับ แสดงว่าคุณเป็นคนที่ไม่เคยห่างเหินจากดนตรีเลยนะครับ

ผมห่างเหินจากดนตรีเมตัลนะครับ ตอนที่ผมทำอัลบัมเดี่ยวนั้นเป็นช่วงที่ผมอยู่ห่างจากดนตรีเมตัลอย่างมากเลย ผมทำงานตอนนั้นเพราะอยากเว้นวรรคตัวเองออกจากดนตรีเมตัลเสียบ้าง ด้วยเหตุนี้ อัลบัมเดี่ยวของผมจึงออกมาในลักษณะผ่อนคลาย ผมใช้เวลาทำอัลบัมนี้ประมาณ 1 ปี ทำแบบที่ไม่เหลียวไปมองงานอื่นๆเลย ผมตัดตัวเองออกจากงานรอบตัวเพื่อทำอัลบัมนี้อย่างเดียว อย่างมากก็ทำงานในสตูดิโอซัก 2 อาทิตย์แล้วหาทางไปทำอย่างอื่นให้หายเบื่อบ้างเท่านั้นเอง แต่ผมก็ใช้เวลาอยู่ในสตูดิโอหลายเดือนเหมือนกัน

คุณสนใจอะไรนอกจากดนตรีอีกหรือครับ

ผมอ่านหนังสือมากเลยล่ะ แล้วก็สนใจฟอรัมคุยกันในอินเตอร์เนต ผมได้คุยกับหลายๆคน ได้แลกเปลี่ยนความคิดและทฤษฎีกันมากมาย นอกจากนี้ผมก็สนใจเกี่ยวกับการแพทย์ด้านจิตวิทยา ผมอ่านหนังสือมากและค้นคว้าไปด้วย อ้อ Aquarium (พิพิธภัณฑ์ทางทะเล, ทะเลเทียม) ก็เป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่งของผมนะ

คุณชอบไปพิพิธภัณฑ์ทางทะเลหรือครับ

เปล่า แต่มันอยู่ที่บ้านผมเลย มีพืช, หิน ต่างๆเรียงรายกันในรูปแบบแตกต่างกันไป ผมชอบดูปลาเป็นๆว่ายน้ำมาก อย่างที่บอกแหละ ผมมีงานอดิเรกหลายอย่าง และผมก็ให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอันดับแรกด้วย รวมทั้งคนรักและเพื่อนฝูงด้วยครับ

แล้วกระแสตอบรับของอัลบัม Hymn of Life จากคนฟังและสื่อเป็นอย่างไรบ้างครับ

กระแสตอบรับแบ่งเป็นส่วนหลักๆได้ 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นกระแสในทางบวกที่ดีจนน่าใจหาย อีกส่วนเป็นกระแสในด้านลบที่เกือบจะเรียกว่าโคตรแย่เลยละ (หัวเราะ) ผมได้รับจดหมายและอีเมลด่ามากเหมือนกัน มันเป็นการตัดพ้อว่าทำไมผมไม่ทำอัลบัมในแบบกีตาร์ฮีโรที่ผมเป็นหัวหอกในด้านนี้อยู่ และคิดว่าคนที่เข้าใจในอัลบัมเดี่ยวของผมชุดนี้คงมีไม่มากนัก เอาน่า ยังไงมันก็เป็นงานที่ผมทำในแบบส่วนตัวของผมเอง ผมว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่คนส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการสื่อและทำลงไปน่ะ

เมื่อเทียบกับดนตรีของ Stratovarius แล้วมันมีทั้งคนที่ว่าดีและแย่กว่าใช่ไหมครับ

ช่ายเลย เพราะมันเป็นงานที่ใครๆพากันคาดหวังกันมาก ใครก็รู้ว่าผมเป็นนักดนตรี เป็นศิลปิน เมื่อเรื่องนี้เป็นที่รู้กันในวงกว้าง และทุกคนพากันหวังในตัวผม ผมว่ามันก็เป็นสิ่งที่อันตรายเหมือนกันในการที่จะทำอะไรท่ามกลางการคาดหวังของคนส่วนใหญ่ขึ้นชื่อว่าศิลปินแล้วนะ ผมว่าควรจะทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำเป็นดีที่สุด

เมื่อกี้คุณว่าอัลบัมเดี่ยวเป็นงานที่ส่วนตัวมากๆ แสดงว่าเนื้อหาเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณ และเป็นจุดสำคัญของอัลบัมใช่ไหมครับ แล้วสื่อกับแฟนเพลงคิดอย่างไรกับเรื่องของเนื้อหาครับ

อื้อ มีคนส่งจดหมายแสดงความเห็นใจถึงผมด้วยนะ ยังไงก็ยังมีคนที่เข้าใจในสิ่งที่ผมแต่งออกมาเป็นเนื้อเพลง จริงๆแล้วมันไม่ได้มีแต่เรื่องส่วนตัวนะ เพราะผมแต่งเกี่ยวกับความเป็นไปของโลกนี้ เรื่องของการเมืองยังมีเลย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่มีคนเห็นด้วยกับผม แต่คนเหล่านั้นถือว่าเป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนแฟนเพลงของ Stratovarius ยอดขายก็เทียบกันไม่ได้ด้วย แต่ผมไม่ใส่ใจเรื่องนี้หรอก เพราะเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้แล้ว การสร้างสรรค์ดนตรีดีๆมันเป็นเส้นขนานกับยอดขายมาแต่ไหนแต่ไรแล้วละ

แล้วคุณฟังอัลบัมเดี่ยวชุดแรกของติโม โคติเปลโต ที่ออกในปี2002 ที่ชื่อ Waiting for the Dawn แล้วหรือยังครับ

แน่อน อยากรู้ความเห็นของผมใช่ไหมล่ะ

ครับ (หัวเราะ)

ความเห็นของผมนะ มันเป็นงานที่เฮฟวีเมตัลเกินไปหน่อย และผมก็ไม่ได้ชอบฟังดนตรีแบบนั้นมากนัก มันเรียบง่ายและตรงไปตรงมามากไปนะ แต่ที่ผมอยากจะบอกก็คือ ผมไม่ใช่คนที่ตัดสินงานจากความชอบหรือไม่ชอบส่วนตัว เพราะที่บอกมานี่ก็เป็นแค่ความคิดเห็นของผม ติโมเป็นคนแต่งเนื้อร้องเองหมดทั้งชุด ผมว่าการที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำจนเสร็จสิ้นก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว ในกรณีของผมก็เช่นกัน สำหรับผมถือเป็นการบำบัดอย่างหนึ่งด้วยซ้ำไป แต่ดูเขาพอใจกับอัลบัมนั้นมากเลยนะ

แล้วอัลบัม Elements Part 1 ของ Stratovarius ล่ะครับ คุณเริ่มแต่งเพลงในช่วงไหนกัน

ประมาณเดือนตุลาคม 2001 ได้มั้ง

เป็นการเริ่มต้นจากศูนย์โดยไม่พึ่งไอเดียที่หลงเหลือจากอัลบัมเก่าเหมือนอย่างที่คุณทำเป็นประจำหรือเปล่าครับ

ช่าย นั่นแหละวิธีการทำงานของผมแหละ จริงๆ แล้วตอนที่ทำอัลบัมนี้ก็ยังมีไอเดียที่หลงเหลือจากอัลบัมก่อนนี้อยู่เหมือนกัน แต่เทปกับไฟล์งานไม่มีเหลืออยู่เลย เพราะงั้นผมก็เลยตัดสินใจแต่งเพลงจากที่ไม่มีอะไรอยู่เลยดีกว่า

ติโม โคติเปลโต กับเยนส์ โยฮันสสันก็มาช่วยแต่งเพลงด้วยใช่ไหมครับ

แน่นอน คราวนี้ผมแต่งเพลงเอาไว้ราวๆ 30 เพลง และ 9 เพลงจากทั้งหมดก็มาเป็น Part 1 อย่างที่คุณได้ฟังไปแล้ว และในเมื่อมีคนถามว่ามี Part 1 แล้ว Part 2 จะตามมาด้วยหรือเปล่า ชัวร์มากว่าต้องตามมาแน่ ผมกะว่าจะให้ออกภายในปลายปีนี้ให้ได้ หรืออย่างช้าที่สุดก็เดือนมกราคม 2004

เพลงที่คุณแต่งไว้ในครั้งนี้ เมื่อเหลือจาก Part 1 คุณจะนำไปใช้ใน Part 2 ใช่ไหมครับ

ใช่ เพราะตอนที่ผมลงมือแต่ง ผมจะรู้ตั้งแต่แรกว่ามันจะต้องออกมาเป็นอัลบัม 2 ชุด เพลงไหนต้องอยู่ใน Part 1 หรืออยู่ใน Part 2 ผมแบ่งเอาไว้หมดแล้ว พูดง่ายๆก็คือ ผมวางแผนไว้แต่แรกแล้วว่า Part 1 กับ Part 2 จะมีแนวทางที่แตกต่างกัน

ยาริ ไคนูไลเนน กับยอร์ก ไมเคิล มีบทบาทอะไรกับอัลบัมนี้บ้างครับ

พวกเขาช่วยออกไอเดียไว้มากมายในชั้นตอนเรียบเรียงดนตรี หนนี้มีผมกับยาริและยอร์กที่มาซ้อมเพลงและเรียบเรียงดนตรีไปด้วย พร้อมกันนั้น พวกเขาก็ช่วยออกไอเดีย แม้เพลงเกือบทั้งหมดจะเป็นฝีมือของผมก็ตาม พวกเขาช่วยผมได้อย่างมากในด้านการเรียบเรียงและการบันทึกเสียง ไม่งั้นผมจะปวดหัวและเสียเวลาไปมากกว่านี้อีก ถ้าต้องทำตามลำพัง

แล้ว Part 1 กับ Part 2 จะแตกต่างกันอย่างไรครับ มีอะไรมาเป็นตัวตัดสิน แล้วดูจากอะไรถึงทราบว่าเพลงไหนจะอยู่ใน Part ใด

ใช้เซนส์ไงครับ เพราะมันเป็นงานที่ผมทำเอง ทุกอย่างจึงชัดเจนมาก ตอนที่ผมแต่งเพลงเสร็จ ผมมีเพลงอยู่ในมือประมาณ 25 เพลง ส่วนไอเดียที่จะทำเป็นอัลบัม 2 ชุดนั้นได้ตอนที่อยู่ในช่วงกลางๆของการแต่งเพลง เพราะเป็นตอนที่สมองผมทำงานไวมาก ให้กำเนิดเพลงชั้นเยี่ยมหลายเพลง เลยมาคิดถึงเรื่องทำออกเป็น 2 อัลบัม ในเรื่องของความแตกต่างระหว่าง Part 1 กับ 2 นั้น Part 2 จะไม่มีการเรียบเรียงที่ซับซ้อนและละเอียดอย่าง Part 1 จะไม่ให้อารมณ์ของซิมโพนิก แล้วยังมีเพลงโปรเกรสสีฟสไตล์ Stratovarius และเพลงบัลลาดรวมอยู่ด้วย

ทำไมไม่คิดออกมาพร้อมกันเป็นอัลบัมคู่เลยล่ะครับ

ผมคิดอยู่แว่บหนึ่งเหมือนกันนะ แต่สำหรับผมแล้ว ดนตรีที่ดีมีความยาวประมาณ 60 นาทีก็เพียงพอแล้ว ผมว่าอัลบัมที่มีเพลงรวมกันยาวร่วม 120 นาทีก็ไม่น่าจะเป็นงานที่น่าสนใจมากนัก แต่หากจะออกแยกกัน ทิ้งช่วงห่างสัก 1 ปีก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ผมถึงได้แยกออกเป็น 2 อัลบัม ให้ Part 2 ออกต่อจาก 1 ประมาณปีนึงก็พอ

แล้ว Elements Part 1 ควรจะเรียกว่าเป็นคอน-เส็ปต์อัลบัม หรือสตอรีอัลบัมดีครับ

ไม่นะ ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง ที่มันตลกก็คือ เวลาที่ Stratovarius ออกอัลบัมใหม่ครั้งใด จะมีคนถามว่า “ชุดนี้เป็นคอนเส็ปต์อัลบัมหรือเปล่า?” ทุกครั้งไป (หัวเราะ) เป็นอย่างนี้ทุกอัลบัมจริงๆนะ มันก็ต้องมีสักวันแหละที่ผมต้องทำคอนเส็ปต์อัลบัมกับเขาบ้าง (หัวเราะ) แต่ยังหรอก ผมชอบสะสมเพลงที่มีเอกภาพเป็นชุดๆไปมากกว่า

ช่วยพูดถึงเพลงหลักๆในอัลบัมนี้สักหน่อย

ได้เลย Eagleheart เป็นเพลงที่มีความเป็น Stratovarius อย่างมาก ทั้งดนตรีและเนื้อร้อง ก่อนแต่งเพลงนี้ผมอ่านเนื้อเพลงของ Bon Jovi, U2 และอลิซ คูเปอร์มากเลย ใช้เวลา 2 วันก็แต่งเนื้อเสร็จ โดยหลักๆแล้ว มันเกี่ยวกับการหนีจากสังคมและความโศกแบบวีรบุรุษอยู่สักหน่อย Soul of a Vagabond เกี่ยวกับนักดนตรีที่ต้องใช้ชีวิตกับการตระเวนไปเรื่อยๆ เมื่อตัดสินใจเป็นนักดนตรีแล้ว คุณจะไม่มีเวลาอยู่บ้าน เนื้อเพลงค่อนข้างหม่นนะ แต่ก็มีความหวัง ไม่ได้เป็นด้านลบทั้งหมดหรอก Fine Your Own Voice ชื่อเพลงก็บอกอยู่แล้ว มีเนื้อหาและข่าวสารเกี่ยวกับการค้นหาวิธีการของเราเอง จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องที่ยากสุดๆเลย คนเราก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่แสนสบาย ทำอะไรเหมือนๆกัน ก็ไม่ต้องเดือดร้อน แต่เราควรหาหนทางของเราให้ได้ และการที่จะทำให้สำเร็จได้ก็ต้องอาศัยความกล้าหาญอย่างมาก Fantasia ได้แนวคิดมาจากหนังแฟนตาซี Never Ending Story มาบ้าง เป็นหนังสำหรับเด็กและทำได้ดีมาก ในเรื่องมีดินแดนในภาพฝันชื่อ “แฟน-ตาเซีย” อยู่ ที่นั่นไม่มีความโศกเศร้า ไม่มีปัญหา แล้วเมื่อมีความชั่วเกิดขึ้นในแฟนตาเซีย ทุกคนต้องร่วมมือกันขับไล่มันออกไป ผมเอาโครงเรื่องนี้มาแต่งเพลงเพื่อสันติภาพ

Learning to Fly คือเพลงที่พูดถึงการเอาตัวรอด พอดีผมมีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ Learnint to Fly ที่แต่งโดยแซม คีน หลักๆก็พูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำ และวิธีที่จะฟันฝ่ามันไปให้ได้น่ะ Papillon เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “ผีเสื้อ” ผมใช้ผีเสื้อเป็นตัวแทนของ “ความเปราะบาง” มีชีวิตเพียงวันเดียว เกิดตอนเช้า ตายตอนค่ำ และทั้งวันที่มันมีชีวิตอยู่ก็ต้องบินไปทั่ว เสียงเด็กอายุ 12 ในเพลงนี้คือเสียงของโยนาส รันนิตา ที่สื่อ “ความเปราะบาง” ได้เป็นอย่างดี เขาอยู่ในวงประสานเสียงคันตาเร มิโนลาส ที่เคยร้องในอัลบัม Destiny มาแล้ว ส่วน Stratofortress เป็นเพลงบรรเลง Elements เป็นไอเดียเกี่ยวกับธาตุดินน้ำลมไฟที่ผมสนใจมานานแล้ว และอยากให้มีธาตุเหล่านี้อยู่ในเพลงของผมด้วย คราวนี้ผมใช้มันเป็นตัวแทนอารมณ์ของมนุษย์เสียเลย ลมแทนความหวาดกลัว, ไฟแทนความโกรธ, น้ำแทนความโศกเศร้า และดินแทนความปีติ Drop In the Ocean เป็นเพลงที่บ่งบอกความรู้สึกว่าเราเป็นเพียงเศษธุลีที่อยู่ในจักรวาล เราไม่ต่างจากน้ำหยดหนึ่งที่ห้วงสมุทรอันไพศาลที่เรียกกันว่า “จักรวาล”

อัลบัมนี้มีเพลงสปีดกับเพลงที่เน้นสเกลใหญ่แบบเอปิกแฟนตาซีอยู่มากมาย เป็นอัลบัมที่เยี่ยมมากครับ แล้วคุณคิดอย่างไรกับชุดนี้

ผมหยุดออกทัวร์ และปล่อยให้ตัวเองห่างจากเมตัล ดังนั้นผมจึงทำงานกับวงออร์เคสตราและวงประสานเสียงในโบสถ์ได้ไม่ยาก มันทำให้ผมได้ไอเดียทางดนตรีที่แตกต่างจากเดิมไปอีกมาก ผมพอใจในจุดนี้ คนที่ช่วยทำสกอร์ออร์เคสตราก็ช่วยออกไอเดียให้มากมาย อีกทั้งทำให้ผมทำงานเรียบเรียงที่ซับซ้อนได้มากยิ่งขึ้น จุดเด่นของ Stratovarius ก็คือเป็นศูนย์รวมสิ่งดีๆทางดนตรีทั้งหมดเอาไว้ ซึ่งก็รวมถึงการที่ผมใส่เพลงบรรเลงเข้าไปด้วย

แต่เพลงเน้นสปีดก็เป็นเครื่องหมายการค้าของ Stratovarius มานานแล้ว ด้านเพลงช้าหรือจังหวะปานกลางก็ให้บรรยากาศของดนตรีโปรเกรสสีฟและสเกลใหญ่อีกด้วย

ถูกของคุณ เพลงเมโลดิกที่เน้นสปีดมากๆคือเครื่องหมายการค้าของ Stratovarius ไปแล้ว ผมเบื่อเพลงทำนองนั้นเหมือนกันนะ อยากทำให้เพลงออกมามีความหมายและเบื่อยากกว่านั้น ผมก็เลยพยายามใช้คอร์ดที่ไม่เหมือนเดิมบ้าง มีผลต่อส่วนละเอียดของเพลงเหมือนกัน แต่เมื่อพูดถึงการเล่นกีตาร์ของผมแล้วนะ นานๆได้เล่นที่ยากๆบ้างก็ดีเหมือนกัน

หลายปีมานี้ ในยุโรปนิยมเพลงกอธิกเมตัลและโปรเกรสสีฟเมตัลกันมาก คุณไม่ได้อิทธิพลจากวงที่เล่นดนตรีเหล่านั้นบ้างหรือครับ

ผมอาจจะได้รับอิทธิพลมาโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้นะ แต่ผมไม่รู้ตัวไง ผมก็เลยไม่รู้เรื่อง (หัวเราะ) ดังนั้นผมฟันธงไม่ได้หรอก และไม่คิดว่าตัวเองได้รับอิทธิพลของดนตรีกอธิกนะ ผมเป็นแฟนตัวยงของดนตรีคลาสสิก สนใจและได้อิทธิพลจากวงออร์เคสตราและวงประสานเสียงในโบสถ์จนต้องเอามาใช้ในอัลบัมของตัวเอง ชีวิตในแต่ละวันผมคงได้อิทธิพลมาจากหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ไม่มีอะไรถือว่ามีอิทธิพลต่อผมอย่างใหญ่หลวงนะ

แล้วเพลง Eagleheart ที่ตัดเป็นซิงเกิลล่ะครับ

ผมเป็นคนเลือกเพลงนี้ แต่มันไม่ใช่เพลงที่เป็นตัวแทนของอัลบัมนี้ทั้งหมด คืองี้...พวกเรามีแฟนที่ตามเราอย่างใจจดใจจ่อ เราค่อนข้างสบายใจกับแฟนกลุ่มนี้ แต่เราอยากให้คนกลุ่มอื่นที่ใหญ่ขึ้นหันมาเป็นแฟนเราบ้าง ด้วยเหตุนี้ ผมจึงเห็นว่า Eagleheart เหมาะสมดี จึงเลือกเป็นเพลงซิงเกิล ผมก็เป็นคนหัวการค้าเหมือนกันนะคุณ (หัวเราะ)

แล้วอัลบัมก่อน Infinite ไปได้สวยขนาดไหนในฟินแลนด์

ได้รางวัลแผ่นเสียงทองคำแผ่นที่ 3 ไปแล้ว ในฟินแลนด์ขายได้ ประมาณ 2.5 หมื่นแผ่น ติดอันดับ 1 นาน 3 สัปดาห์ แล้วก็วนเวียนอยู่ในชาร์ตของฟินแลนด์อีกร่วมครึ่งปี อัลบัมอย่าง Visions, Destiny, Infinite ล้วนขึ้นถึงอันดับ 1 ในฟินแลนด์ทั้งนั้น

คุณเห็นว่าการติดอันดับ 1 เป็นเรื่องสำคัญหรือเปล่าครับ แล้วในอันดับเพลงจะเป็นอย่างไรก็ช่างหัวมัน

ผมว่ายังไงก็ได้นะ ผมค่อนข้างจะมีทิฐิสูง (หัวเราะ) จริงๆแล้วผมรู้ดีว่าทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จ ที่เหลือก็ให้ต้นสังกัดไปทำการตลาดดีๆ แล้วรอรับผลกำไรก็พอ ระยะหลังผมชอบให้สื่อสัมภาษณ์ ผมสนุกที่ได้คุยกับคนแปลกหน้า และมันก็เป็นส่วนหนึ่งของงานด้วย

การทัวร์ยุโรปในช่วงนี้เป็นอย่างไรครับ

มีวงเปิดให้เรา 2 วง วงแรกคือ Symphony X กับอีกวงเป็นวงฟินแลนด์คือ Thunderstone

เห็นติโม โคตีเปลตีบอกว่าคุณซี้กับ Thunderstone มากนี่

ช่าย ผมเป็นเพื่อนกับมือกีตาร์ของวงนี้มากว่า 10 ปีแล้ว ผมยังไปโซโลกีตาร์ให้ในอัลบัมของพวกเขาเลย

เคยทัวร์กับพวกเขามาก่อนหรือเปล่า

ไม่ นี่เป็นครั้งแรก และพวกเขาก็เพิ่งจะได้ออกอัลบัมแรกกันด้วย

ตอนนี้ยังคิดว่าดนตรีของพวกเขาเหมือนกับ Stratovarius ด้วยซ้ำ แล้วคุณคิดอย่างไรกับดนตรีของวงนี้

ผมไม่คิดว่าพวกเขาเหมือน Stratovarius นะ แต่ก็มีคนคิดอย่างคุณมาก ทำให้พวกเขาลำบากใจเหมือนกัน จริงอยู่ที่พวกเขาได้อิทธิพลจาก Stratovarius ก็เหมือนกับพวกเราที่ได้อิทธิพลจาก Helloween และอิงวีมาอีกที ก็ไม่ต่างกันหรอก ไม่ใช่ความผิดของพวกเขาหรอก

สุดท้ายมีอะไรจะฝากถึงแฟนเพลงบ้างครับ

เราคงมีโอกาสได้เจอกันนะ ผมอยากเล่นดนตรีให้พวกคุณทุกคนได้ดูกันจริงๆ

Discography

FLIGHT NIGHT 1989

TWILIGHT TIME 1992

DREAM SPACE 1994

FOURTH DIMENSION 1995

EPISODE 1996

VISIONS 1997

VISION OF EUROPE LIVE 1997

DESTINY 1998

INFINITE 2000

ELEMENTS PART 1 2003

  • สินค้าที่เกี่ยวข้อง
    คลิกดูรายละเอียด

  •  

    Top
    E-Mail

    Password


    Community
    Activity
    Photo Contest
    Bey Blade
    Cartoon 9
    Chat Room
    D-3
    D-Terminal
    D-Power
    Digimon
    Download
    Market Place
    Micro pet
    Quiz
    Can not select dB