BRIGHT FUTURE Directed by Kiyoshi Kurosawa ว่าด้วยความ เป็นอื่น ของมนุษย์ โดย อุทิศ เหมะมูล.
ในประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ของมนุษย์ เราได้ผ่านวิวัฒนาการจากอดีตจนถึงปัจจุบันที่นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำถือได้ว่าพัฒนาจนถึงขีดสุดโดยสมบูรณ์แล้ว ไม่ว่าจะเป็น กะโหลก สมอง กระดูกสันหลัง ฯลฯ เราไม่อาจมีนิ้ว ดวงตา ปาก ฯลฯ เพิ่มขึ้น แต่วิวัฒนาการของมนุษย์ก็ถือได้ว่ายังรุดหน้าปรับเปลี่ยนต่อไป เราเปลี่ยนสภาพแวดล้อมจากถ้ำมาอยู่กระโจม บ้าน ชุมชน สังคมและเมือง จากครั้งหนึ่ง มนุษย์ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม มาบัดนี้ เราสามารถปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้เข้ากับความปรารถนานานัปการของเรา แนวคิดที่ว่า มนุษย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาล ยังคงอยู่อย่างแข็งขัน ในรูปของความเจริญรุดหน้า ความสะดวกสบายต่างๆ มนุษย์ยังทะเยอทะยานให้โลกรับใช้มนุษย์ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง น้อยครั้งนักที่เราจะถามตัวเองถึงความพอดี เมื่อเราครอบครองสิ่งหนึ่งได้แล้ว เราก็อยากจะครอบครองสิ่งอื่นอยู่ร่ำไป น้อยครั้งนักที่เราจะถามถึง จุดอิ่มตัว ของเราเอง
มนุษย์ต่างจากสัตว์ก็ตรงที่มีความคิด มีสติปัญญา แต่ความต่างนี้เองที่เป็นจุดหักเห เป็นจุดที่เปลี่ยนเป็นอื่น ทำให้เรามุ่งหน้าสู่การทำลายล้างได้เร็วที่สุดเพราะเราไม่รู้จักความพอดี การสร้างอะไรขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็มักกลาย เป็นอื่น เสมอด้วยความไม่รู้จักพอและรู้เท่าไม่ถึงการณ์
อัลเฟรด โนเบล คิดค้นระเบิดไดนาไมต์เพื่ออุตสาหกรรม ทว่ามันก็เปลี่ยนเป็นอื่นโดยการถูกใช้ในการประหัตประหารชีวิต เช่นเดียวกับทฤษฎีสัมพันธภาพของ ไอน์สไตน์ ที่กลายไปเป็นระเบิดนิวเคลียร์ และการโคลนนิงเพื่อประโยชน์ในการศึกษาก็กำลังจะถูกมอง ถูกใช้ด้วยใจอกุศล เหล่านี้เป็นตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ของความเป็นอื่นที่มนุษย์หยิบยื่นให้กับโลกที่มนุษย์กำเนิดมา
คำถามเกี่ยวกับ อนาคตที่รุ่งโรจน์ ของมนุษย์จะเป็นไปในทิศทางใด นั่นเป็นโจทย์ที่ควรส่งต่อจากคนรุ่นหนึ่งสู่คนรุ่นหนึ่งต่อไป ให้พวกเขาได้ตั้งคำถามและเกิดการตระหนักรู้ในภายหลัง
Bright Future ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของผู้กำกับรุ่นใหม่ชาวญี่ปุ่น Kiyoshi Kurosawa ผู้ถนัดตั้งคำถามเชิงอภิปรัชญาที่ถ่ายทอดลงมาในงานเรียบง่าย มักบอกเล่าเรื่องปรากฏการณ์แปลกๆ ประหลาดๆ และสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นกับกลุ่มคน ที่อุปมาอุปไมยไปถึงความคิดเชิงลึกต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็น Cure ที่กล่าวถึงนักสะกดจิตผู้ปลดปล่อยความคิดด้านมืดของผู้คนให้ลงมือทำ Charisma ต้นไม้ปริศนาที่เย้ายวนความปรารถนาของมนุษย์ Pulse (Kairo) จิตโดดเดี่ยวอันอ่อนแอที่ถูกควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ ทั้งหลายเหล่านี้เป็นภาพสะท้อนให้เห็นความอ่อนแอและเปราะบางของมนุษย์ที่ถูกชักนำโดย ด้านมืด, สิ่งลึกลับ หรือ ความสวยงามยวนใจ ไม่ว่ามันจะมาในรูปของอะไร มันก็สามารถทำให้มนุษย์พบกับจุดจบอันหายนะได้ทั้งสิ้น
Bright Future เป็นหนังที่ดูยากอีกเรื่องหนึ่งเพราะมันแสดงการอุปมาอุปไมยถึงสิ่งที่ลึกซึ้งกว่าภาพที่เล่าเรื่องอย่างแข็งขัน เบื้องหน้าเหตุการณ์ที่เป็นไปอย่างเรียบง่ายของกลุ่มคนล้วนประหวัดถึงแนวคิดที่ผู้กำกับต้องการจะสื่อแทบทั้งสิ้น สารภาพกันตรงๆ ว่าตัวผมเองนั้นก็ดูจะไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ แต่ก็พยายามบอกเล่าอย่างสุดความสามารถ
หนังว่าด้วยเรื่องของความสัมพันธ์ของชายหนุ่มสองคน สถานภาพความสัมพันธ์ที่คลุมเครือของคนทั้งสองประหวัดให้นึกถึงอาจารย์กับลูกศิษย์ หรือผู้นำกับผู้ตาม มาโมรุ ชายหนุ่มเงียบขรึม ทำตัวลึกลับ เป็นเพื่อนสนิทต่างวัยที่ทำงานด้วยกันกับ นิมูระ (ซึ่งวัยอ่อนกว่า) มาโมรุ มีสัตว์เลี้ยงแสนรักคือแมงกะพรุน ซึ่งสวยงามเย้ายวนแต่ก็มีพิษร้ายแรงไม่แพ้ความสวยของมัน เขาเก็บงำปริศนาบางสิ่งที่กระตุ้นความสนเท่ห์ต่อ นิมูระ วันหนึ่ง มาโมรุ ลาออกจากงานและฝากฝังให้ นิมูระ ดูแลแมงกะพรุนนี้ให้ดี เมื่อเขาหายตัวไปไม่นานหัวหน้างานของคนทั้งสองก็ถูกฆาตกรรมสยอง มาโมรุ กลายเป็นผู้ต้องสงสัยซึ่งถูกจำคุก ฝ่าย นิมูระ นั้นก็คอยไปเยี่ยมเยือน ต่างก็ทะเลาะเบาะแว้งกัน วันหนึ่ง นิมูระ ทำลายตู้เลี้ยงแมงกะพรุน ทำให้มันตกลงไปในแม่น้ำ ต่อมาไม่นานนัก เขาพบว่ามันยังคงมีชีวิตอยู่และเรืองแสงอย่างงดงามเย้ายวน จากจุดนั้นเองที่ นิมูระ ตัดสินใจที่จะเลี้ยงมันต่อโดยการหาอาหารมาให้แมงกะพรุนกิน ในช่วงนั้น มาโมรุ ได้ฆ่าตัวตายในคุกและ นิมูระ ก็ย้ายไปอยู่อาศัยกับพ่อของมาโมรุแทน
สัตว์น้ำเค็มอย่างแมงกะพรุนได้ปรับเปลี่ยนตัวมันเองให้ดำรงอยู่ในน้ำจืดได้และจากนั้นก็ได้ขยายเผ่าพันธุ์ออกมาเป็นโขยงภายในเวลาอันรวดเร็ว ความสวยงามในการเรืองแสงของมันเย้ายวนมนุษย์ให้สัมผัสจับต้อง จนล้มตายกันไปหลายคน ความปรารถนาอันเส้นลึกที่มนุษย์มีต่อเจ้าแมงกะพรุนนี้ เปิดเผยให้เห็นความต้องการอย่างไม่สิ้นสุด ส่วนเจ้าแมงกะพรุนซึ่งเป็นอุปมาหรือสัญลึกษณ์นี้เมื่อพวกมันวิวัฒนาการจนถึงจุดอิ่มตัว สามารถดำรงอยู่ได้ทั้งในแม่น้ำและภายในเมืองได้แล้ว พวกมันก็ทยอยกันกลับไปสู่ที่ๆ มันจากมา นั่นคือท้องทะเล
เหล่านี้คือ ข้อความ บางสิ่งที่ผู้กำกับต้องการจะบอก เช่นเดียวกับการเปลี่ยนผ่านทางวุฒิภาวะของทั้ง มาโมรุ และ นิมูระ ซึ่งในบั้นปลายก็พร้อมที่จะปล่อยแมงกะพรุนกลับไปสู่ที่ๆ มันจากมา ไม่เหนี่ยวรั้ง ไม่แข็งขืน หากแต่ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ถึงความพอดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งต่อจากผู้รู้ หรือผู้ที่เข้าใจแล้ว ไปยังคนรุ่นต่อไป
หาก Bright Future ของ Kurosawa คือสิ่งนี้ ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดนี้ ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความหวัง ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์เพราะตอนจบในหนังของเขาหลายเรื่องมักนำไปสู่หายนะเสมอ
แหล่งที่มา : หนังสือ Movie Time / 2003
|