>
home >
music >
Report > |   12 Welsh Artist Of All Time (part. 2) | | แหล่งที่มา : by Anusorn Stirarat หนังสือ Sound Magazine / 2003 | |
| | | 12 Welsh Artist Of All Time (part. 2)
The Supremes | |
|
Stereophonics เคลลี และริชาร์ด โจนส์กับสจวร์ต เคเบิล รวมตัวกันในนาม Tragic Love Company ก่อนจะมาเปลี่ยนชื่อเป็น Stereophonics อย่างที่เรารู้จักกันดีจนทุกวันนี้ สามหนุ่มจากเมือง Cmmaman อยู่ทางตอนใต้ของเวลส์ ได้เซ็นสัญญากับสังกัด V2 เมื่อปี96 หนึ่งปีให้หลัง อัลบัมแรก Words Get Around ก็ได้ฤกษ์วางขาย และเป็นผลให้ Stereophonics ได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากเวทีบริตอะวอร์ดส์อัลบัมที่เล่าเรื่องราวประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิต มีทั้งการประชดประชันและเสียดสี ดนตรีร็อคที่เพรียบพร้อมไปด้วยกีตาร์ ทั้งอะคูสติกและไฟฟ้า เสียงร้องและเนื้อหาถ่ายทอดออกมาได้อย่างลงตัวและน่าฟัง จนนิตยสาร NME อดใจไม่ได้ที่จะยกให้เป็นหนึ่งในอัลบัมที่ดีที่สุดของปี97 บ้านเราก็พลอยฟ้าพลอยฝนกับความสำเร็จนั้นด้วย โดยได้ยลความสามารถของทั้ง 3 เป็นบุญตา เมื่อทางต้นสังกัดพาตัว 3 หนุ่มมาโปรโมตอัลบัมที่บ้านเราเมื่อซัก 5-6 ปีที่แล้ว จนถึงตอนนี้ Stereophonics มีงานปาเข้าไปถึง 4 ชุด แต่งซาวน์ดดนตรีก็ยังคงอิงความเป็นตัวของตัวเองมาตลอด ซึ่งก็ทำให้งานของพวกเขามัดใจแฟนๆได้อยู่หมัดเช่นเคย |
by POJ | |
| The Spice Girls
|
Catatonia ถึงจะไม่มีวงนี้ในวงการดนตรีอีกต่อไป แต่งานดนตรีดีๆที่พวกเขาทำไว้ก็ไม่เคยทำให้แฟนๆลืมได้ Catatonia คือวงที่มีสาวเครีส์ แมตธิวส์ เป็นแกนนำ ร่วมกับอีก 4 ชาย ทั้ง 5 รวมตัวกันเมื่อปี92 มีอีพีแรกชื่อ For Tinkerbell ออกมาเมื่อปี93 ต่อมาอัลบัมเต็มชุด Way Beyond Blue ก็ตามมา แต่อัลบัมที่ทำให้ชื่อเสียงของวงเป็นที่รู้จักและยอมรับกันทั่วโลกรวมถึงที่บ้านเราก็คืองานชุดที่ 2 International Velvet งานที่รวมความหลายหลายของแนวดนตรี แต่ละเพลงมีความโดดเด่นแตกต่างกันออกไป มีทั้งป๊อปร็อคที่ละเมียดสวยงาม ทั้งบัลลาดที่เน้นเพียงเสียงกีตาร์ บางเพลงใช้เปียโนอย่างเดียวดวลเดี่ยวกับเสียงร้อง และที่ต้องยกให้เป็นเสน่ห์ของงานก็คือเสียงร้องเล็กๆใสๆ และหวานฉ่ำของเคริส์ ที่ใครได้ฟังเป็นต้องหลงรัก นิตยสาร Q ของอังกฤษ ยกให้เป็นหนึ่งใน 90 อัลบัมที่ดีที่สุดของยุค90s เลยทีเดียว แต่หากใครยังคงหลงใหลเสียงงามๆของเครีส์ละก้อ ก็คอยติดตามงาน
เดี่ยวของเจ๊เธอได้ แต่จะหาซื้อได้ในเมืองไทยรึเปล่าเนี่ย อันนี้ตอบไม่ได้จริงๆค่ะ |
|
by POJ |
|
TLC | |
|
Feeder การสูญเสียสมาชิกคนสำคัญของวงอย่างจอน ลี ที่ปลิดชีพตัวเองไปเมื่อช่วงต้นปี2002 ทำให้แฟนๆเป็นห่วงกันว่า Feeder จะยังคงสถานภาพความเป็นวงต่อไปได้หรือไม่ เพราะเมื่อจอนจากไป ก็เหลือเพียง 2 คือแกรนต์ นิโกลัส หนุ่มหล่อตาว้าน... หวาน และทากะ ฮิโรเสะ แต่ทั้ง 2 ก็ได้พิสูจน์ให้เห็น เมื่อปล่อยอัลบัม Comfort In Sound ออกมาเมื่อเดือนสิงหาคมปี2002 เป็นการตอกย้ำความคิดที่ผิดถนัดของเสียงลือเสียงเล่าอ้างที่อื้ออึงกันว่าวงอาจถึงกาลแตกดับ Feeder มีงานชุด Echo Park เป็นงานสร้างชื่อ ซึ่งวางขายเมื่อปี 2001ไต่ไปได้สูงถึงอันดับที่ 5 ในอัลบัมชาร์ต งานโปรเกรสสีฟร็อค กีตาร์เริดหรู มีเพลงเด็ดๆดังๆอย่าง Buck Rogers และ 7 Days In the Sun และเพลงเมโลดีงามๆที่ฟังแล้วทำเอาเข่าอ่อนยวบอย่าง Tell All Your Friends และ Standing On the Edge เป็นงานร็อคที่เสนาะหูโดดเด่นด้วยความลงตัวของดนตรีและเนื้อหา ความสำเร็จของงานชุดนี้ เป็นผลให้ Feeder ได้ออกทัวร์ร่วมกับวงดังจากบ้านเดียวกันอย่าง Stereophonics และทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักไม่น้อยทีเดียวในอเมริกา |
by POJ | |
| The Runaways
|
60ft Dolls ล้มหายตายจากไปจากวงการดนตรีอีกหนึ่ง สำหรับวง 3 หนุ่มหน้าใสจากนิวปอร์ต 60ft Dolls ที่มีคาร์ล บีเวน, ไมค์ โคล และริชาร์ด พาร์ฟิต ทั้ง 3 รวมตัวกันเมื่อต้นยุค90s สร้างชื่อให้ตัวเองและทำให้ใครๆต้องจับตามอง เพราะถูกยกย่องว่าเป็นวงที่มีพลังเหลือล้นแสดงสดได้มันส์มากๆ จนเมื่อปี1996 The Big 3 อัลบัมแรกวางขาย งานนี้ไต่อันดับไปติดท็อป 40 ในอัลบัมชาร์ต เป็นงานร็อคของ 3 หนุ่มไฟแรง ถึงจะมีกันแค่ 3 คน แต่สุ้มเสียงดนตรีแน่นและเต็มเต่งเข้ากลางสองหูเลยทีเดียว โดยไม่ต้องอาศัยดนตรีสังเคราะห์และโปรแกรมมิงใดๆ แค่กลอง เบส กีตาร์และเสียงคอรัสที่สอดแทรกอยู่ รวมไปถึงกลิ่นอายพังก์ที่เกลื่อนกระจาย แค่นี้ก็ทำให้งานน่าสนใจเอามากๆ ทำงานดีขนาดนี้ จึงถูกวงร็อครุ่นเก๋าอย่าง The Sex Pistols ชวนไปเล่นเป็นวงเปิดให้ต่อหน้าผู้ชมกว่า 36,000 คน ซึ่งถือเป็นเกียรติประวัติที่น่าประทับใจและยิ่งใหญ่ที่สุดของวงอีกหนึ่งงาน ต่อมาไม่นานวงก็ถึงการอวสานเมื่อทั้ง 3 ประกาศแยกทางกันอย่างเป็นทางการ หลังจากที่งานชุดที่ 2 Joya Magical เสร็จสมบูรณ์ เส้นทางของ 60ft Dolls จึงหยุดอยู่เพียงเท่านี้ น่าเสียดายความสามารถเอามากๆ |
|
by POJ |
|
The Shangri-Las | |
|
Manic Street Preachers ประวัติศาสตร์ดนตรีเวลส์ไม่มีวันสมบูรณ์ถ้าไม่มี The Manics และ ป้าแต๋ว วาสนา วีรชาติพลีก็คงไม่มีวันได้เกิด ถ้าไม่มีอัลบัม Generation Terrorist! 4 หนุ่มบ้านนอกจากแบล๊กวูด ลุกขึ้นมาปฏิวัติวงการเพลงอังกฤษที่ยังคุกรุ่นกลิ่นอายแบกกี กางเกงตัวโค่ง ด้วยอายแชโดว์ เสื้อลายดอก กางเกงรัดรูป และดนตรีพังก์ร็อคที่มาพร้อมเนื้อเพลงที่เป็นความปวดร้าว, ลึกซึ้ง ซึ่งถูกแสดงออกมาด้วยความรุนแรงเกรี้ยวกราด The Manics นำมันสมองกลับมาสู่วงการร็อคอีกครั้ง นี่ยังไม่รวมแรงดึงดูดของสองคู่หูผู้แต่งเนื้อร้อง/กระบอกเสียงของวง ริชี เจมส์ และนิกกี ไวร์ที่ปราดเปรื่อง และรอบรู้ ฉาดฉานอย่างที่ไม่เคยมีคู่หูใดในวงการเพลงเป็นได้มาก่อน ...และไม่เคยมีอีกจนถึงยุคพีต โดเฮอร์ตี/คาร์ล บาราต แห่ง The Libertines (ซึ่งยังไม่ทันไต่เต้าไปได้ถึงจุดของคู่แรก ก็ทำท่าว่าคนหนึ่งจะชิงหายตัวไปเสียแล้ว!) The Manics คือแรงบันดาลใจของอีกหลายๆวง คือหนึ่งในวงที่สามารถลบเส้นแบ่งระหว่าง อินดี และ เมนสตรีม ได้ จะมีอีกไหม... วงที่เคยประกาศว่าจะทำอัลบัมแรกให้ได้แผ่นเสียงทองคำ และแยกวงทันที แล้วยังกลืนน้ำลายตัวเอง ฟันฝ่าแม้มรสุมการสูญเสียสมาชิกหลัก มาถึงวันที่มี Greatest Hits และได้เล่นตรงหน้ามหาเผด็จการอย่างฟิเดลคาสโตร? อัมบัมเด่นคงไม่พ้นอัลบัมแรก Generation Terrorist ที่พลิกวงการเพลงด้วยไฟเกรี้ยวกราด และอารมณ์เศร้าลึกซึ้ง แม้ใจส่วนตัวจะชอบ The Holy Bible มากกว่า แต่ก็ต้องยอมรับว่า สำหรับคนที่ไม่ได้คิดจะเลือกริชีศึกษาเป็นวิชาเอก Generation Terrorist แข็งกว่างานส่วนตัวชุด 3 ของริชีเป็นไหนๆ ทั้งความลงตัวระหว่างดนตรีและเนื้อร้อง ที่ไม่ทำให้รู้สึกเหมือนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นเพียงฐานรองรับของอีกฝ่าย และความกลมกลืนในการแต่งเนื้อเพลงของริชีและนิกกีที่ยังไม่สามารถแยกออกได้ว่าใครแต่งเพลงไหน หรือท่อนไหน GT คืองานที่นิยามความเป็น Manics ในฐานะวงดนตรี และจิตวิญญาณของพวกเขา...ซึ่งสมาชิกที่เหลืออยู่ของวงอาจลืมไปเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นได้ |
by MILA | |
| The Shaggs |
The Alarm วงนี้คือตำนานแห่งเวลส์ขนานแท้ ต้นยุค80s จนถึงต้นยุค90s คือยุคทองของ 4 หนุ่มวง The Alarm อย่างแท้จริง สมาชิกรู้จักกันมาตั้งแต่กลางยุค70s ประกอบด้วยไมค์ ปีเตอร์ส (กีตาร์, ร้อง) เดฟ ชาร์ป (กีตาร์) เอดดี แมกโดนัลด์(เบส) และไนเจล ทวิสต์ (กลอง) ตั้งวงในปี78 ในชื่อ Seventeen ที่เล่นร็อค/พังก์ แล้วเปลี่ยนเป็น Alarm Alarm เมื่อต้นยุค80s แต่มีวงชื่อซ้ำๆแบบนี้แยะมาก ทั้ง Duran Duran, Talk Talk ก็เลยเปลี่ยนเป็น The Alarm ในปี81 ออกอัลบัมหลายชุด เริ่มดังจากอัลบัม Declaration (84) แต่ประสบความสำเร็จในวงกว้างจากอัลบัม Strength ในปี85 ซึ่งมีเพลงร็อคแอนด์โรล, พังก์, ป๊อปและเพลงสไตล์ของพวกเขาอย่าง Knifedge, Spirit of 76 และไตเติลแทร็ก จากนั้นก็ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมดนตรีป๊อปเต็มตัว ทำดนตรีร็อคป๊อปฝั่งอเมริกาแบบวง Glass Tiger ทำให้อัลบัม Eye of the Hurricane (88) และ Change (91) เป็นต้นไปไม่ประสบความสำเร็จ แต่อัลบัมไลฟ์ Electric Folklore (89) ก็ยอดเยี่ยม เมื่อหมดเอกลักษณ์และเสื่อมความนิยม พวกเขาก็ตัดสินใจแยกวงกันในที่สุด แต่ในบ้านเกิดพวกเขาก็ยังได้รับการต้อนรับเยี่ยงวีรบุรุษเสมอมา ปัจจุบัน ไมค์ ปีเตอร์ส เป็นศิลปินเดี่ยวที่ยังมีฐานแฟนในเวลส์และสหราชอาณาจักรอยู่ ส่วนงานในอดีตของ The Alarm ก็ถูกนำมาออกใหม่เรื่อยๆ ล่าสุดมีอัลบัมรวมเพลงชื่อ Collected Work (01) ส่วนเดฟ ชาร์ป ก็มีงานเดี่ยวออกมา 3 ชุดในช่วงยุค90s พวกเขาแยกวงกันกลางยุค90s จะว่าไปแล้ว The Alarm ค่อนข้างด้อยวาสนาตรงที่แจ้งเกิดในอเมริกา อัลบัมที่ดีที่สุดของ The Alarm ก็คือ Strenth ที่ครบเครื่องอย่างมาก มีเพลงในสไตล์พวกเขาและมีซิงเกิลฮิต Spirit of 76 และเพลงไตเติลแทร็กที่โชว์การสับคอร์ดกีตาร์อันเฉียบคม การสอดแทรกเสียงออร์แกน ที่มีมาตั้งแต่งานแรกๆก็ยังเป็นเสน่ห์ของพวกเขาอยู่ตอนนี้พวกเขาเป็นตำนานไปแล้ว เช่นเดียวกับมาร์ก และเดฟที่ยังคงเวียนว่ายอยู่ในแวดวงดนตรีเวลช์อยู่เหมือนเดิม |
|
by Anusorn Stirarat |
|
|
| |
Can not select dB |