Home Shop Mag'z Member Basket Thai / English Site Map
Webboard Book Toy Music Movie
Music
  >  home >  music >  Report > 
    16 เรื่องเกี่ยวกับ Jay Chouแหล่งที่มา :
หนังสือ All Stars / 2003
16 Things about Jay

1. เขาไม่ใช่เด็กหนุ่มหน้าตาดี

ด้วยตาตี่ๆ และใบหน้าที่แปลกตาของเขา Jay รู้ดีว่า เขาไม่ใช่คนที่หน้าตาดี แต่แล้วยังไงล่ะ? "แม้กระทั่งตอนที่แฟนเพลงผู้หญิงเดินเข้ามาหาผม พวกเธอยังไม่พูดด้วยซ้ำไปว่าผมหล่อ มันเป็นดนตรีของผมต่างหากล่ะที่พวกเธอสนใจ"

2. เขากลัวเวที

ครั้งแรกที่เขาได้ขึ้นไปยืนอยู่บนเวทีก็คือพิธีสำเร็จการศึกษาไฮสคูลของเขา เขาวิตกจริตเสียจนสมองของเขาว่างเปล่า เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าวันนั้นเขาเล่นเพลงอะไรไป เขายังรู้สึกแบบเดียวกันนั้นในตอนที่เขาขึ้นไปบนเวทีเพื่อแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกของเขา ก่อนที่เขาจะขึ้นไปบนเวที เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาเกิดอาการความจำเสื่อมขึ้นมาอย่างฉับพลัน แต่หลังจากนั้นซักพัก เขาก็เริ่มเสพติดการยืนอยู่บนเวที โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ได้เห็นปฏิกิริยาตอบสนองของแฟนๆ ที่เฝ้าดูการแสดงของเขา "มันแตกต่างกันเหลือเกินจากวันที่ผมแสดงต่อหน้าบรรดาผู้ปกครองในไฮสคูลของผม ผมคิดว่าทุกคนจะรู้สึกสนุกไปกับประสบการณ์แบบนี้ มันให้ความรู้สึกที่เหมือนกับช่วงเวลาที่ในชีวิตหนึ่งจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวยังไงยังงั้นเลยครับ

3. เขารักเกมคอมพิวเตอร์

เขารักเกมคอมพิวเตอร์ที่ไม่เก่าแก่โบร่ำโบราณจนเกินไปและก็ไม่ใช่เกมที่ทันสมัยอะไร เขารักจังหวะดนตรีในวิดีโอเกมพวกนั้น เขาคิดว่ามันเจ๋งกว่าเพลงที่เป็นที่นิยมกันซะอีก "ถ้าดนตรีของผมเป็นเหมือนอย่างวิดีโอเกมที่พวกเด็กๆ และคนหนุ่มสาวชื่นชอบกันมากๆ ล่ะก็ มันคงจะเจ๋งดีนะครับ" จริงๆ แล้ว มันมีวิดีโอเกมมากมายที่เป็นแรงบันดาลใจให้แก่เขา อย่างเกม Three Kingdom เขาได้รับแรงบันดาลใจในการผสมผสานศิลปะการต่อสู้ให้เข้ากับสไตล์ดนตรีในปัจจุบัน และนี่เองที่ทำให้เขาเริ่มต้นเขียนเพลง Long Quan

4. เขาเป็นหุ่นยนต์ที่ไม่ต้องการถูกบงการ

เขาเรียกตัวเองว่าเป็นหุ่นยนต์ที่ไม่ต้องการจะถูกบงการ อย่างไรก็ดี ได้มีการตั้ง "โปรแกรม" เอาไว้แล้ว และเขาก็ไม่สามารถไปยุ่งเกี่ยวกับมันได้ เริ่มต้นตั้งแต่วันที่เขาเริ่มต้นเดินทางสายดนตรีจนถึงวันนี้ มีหลายสิ่งหลายอย่างมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เขาไม่สามารถรับมือกับมันได้ "ดนตรีของผมเป็นอิสระเสรี แต่ชีวิตผมไม่ได้เป็นอย่างนั้น สิ่งที่เลวร้ายก็คือ ผมรู้ตัวดีว่าผมไม่สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ตามที่ฉันต้องการ ผมต้องทำตามหน้าที่อย่างเคร่งครัด หุ่นยนต์ก็ถูกตั้งโปรแกรมให้เป็นแบบนั้นเหมือนกันไม่ใช่หรอกหรือ" เขากล่าวว่าจริงๆ แล้ว เขาชอบที่จะทำงานในเวลาที่เขารู้สึกอยากจะทำ ถ้าเป็นไปได้ล่ะก็ เขาไม่ต้องการให้มีข้อจำกัดทางด้านเวลา

5. ผู้หญิง

หญิงสาวน่ารักคือแรงบันดาลใจสำหรับเขา ตั้งแต่วันที่เขาเขียนเพลง Ke Ai Nu Ren จนมาถึงอัลบัม Ye Hui Mei หญิงสาวในสเป็คเขาจะต้องสง่างาม น่ารัก เรียบร้อย ราวกับดอกไม้ "เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมได้เห็นเธอ ผมก็จะรู้สึกดี นั่นแหละครับคือผู้หญิงที่จะกลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับผม"

6. เขาอยากจะเป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์

เป้าหมายของเขาคือการมีชื่อเสียง เขาหวังว่า 10 ปีหลังจากนี้ไป ผู้คนจะเล่าให้ลูกหลานเขาฟังว่า พวกเขาเติบโตขึ้นมาด้วยเพลงของ Jay Chou "ผมคิดว่ามันเป็นความฝันที่ดีนะครับ เพราะว่าสิ่งที่ผมชื่นชมในตัวเองมากที่สุดก็คือความมั่นใจครับ"

7. เพลงเก่าๆ

มีเพลงเก่าๆ บางเพลงที่ถึงแม้คุณจะหยิบมาฟังในตอนนี้ คุณก็ยังรู้สึกว่ามันเป็นเพลงที่ดีอยู่นั่นเอง เพลงของ Gao Ling Feng และ Lu Shu Quan ก็เป็นหนึ่งในนั้น ในตอนที่เขาอยู่เกรด 2 เขายึดนักร้องเหล่านี้เป็นแบบอย่างของเขา เขาอยากจะเล่นดนตรีและใส่เสื้อผ้าแบบพวกเขา ในเวลานั้น ไม่มีใครในไต้หวันที่เล่นดนตรีที่สดใส มีพลังอย่าง Li Shu Quan ส่วนการแสดงบนเวทีของ Gao Ling Feng ก็ทำให้ Jay ทึ่งอย่างเหลือเกิน เขาเคยอ้อนวอนพ่อของเขาให้ซื้อกางเกงสแล็กและเสื้อโค้ทตัวยาวให้กับเขา แล้วเขาก็ถ่ายรูปตัวเองในชุดนั้น ในขณะที่ถือไฟแช็คแบบคลาสสิก เลียนแบบเพลง Dong Tian Li De Yi Ba Hao ของ Gao Ling Feng จากนั้น เขาก็จะกระโดดโลดเต้นในห้องนั่งเล่น "ภาพถ่ายพวกนี้มีค่ามากเลยนะครับ" เขายังพูดอีกด้วยว่า เด็กๆ จะละเอียดอ่อนในการตอบสนองกับดนตรีดีๆ มากกว่า "ถ้าพวกเขาชอบเพลงของคุณล่ะก็ คุณก็สำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง"
หนังเก่าๆ
"ผมชอบการผสมผสานระหว่างความเก่ากับความใหม่น่ะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังเก่าๆ ที่ผสมผสานเข้ากับดนตรีแบบใหม่" นั่นคือสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขาทำเพลง In the Name of the Father ซึ่งอิงมาจากเรื่อง The Godfather "ผมอยากจะอธิบายตัวละครของพวกเขาในเพลงและเผยให้เห็นถึงค่านิยมที่แตกต่างกันไปในบางครั้งบางคราวน่ะครับ"

8. ฮีโร

มีฮีโรทางดนตรีในอดีตมากมายที่กลายมาเป็นผู้บุกเบิก มันมีสำนวนที่ว่า "ผู้นำทางดนตรีในอดีตก็เป็นพวกกบฏทั้งนั้นแหละ" เหมือนกับเพลง Huo Che ของ Luo Da You และ Xiang Qian Zou ของ Lin Qiang เพลงเหล่านั้นเป็นราวกับสายลมเย็นอันสดชื่นสำหรับวงการดนตรีของจีน เมื่อเขาอายุได้ 14 ปี เขาก็ไม่ค่อยสนใจในดนตรีจีนซักเท่าไหร่ แต่ Luo Da You และ Lin Qiang คือผู้ที่ทำให้เขาเริ่มต้นฟังเพลงจีนอีกครั้งหนึ่ง

9. ญี่ปุ่น

ในตอนที่เขาไปพักผ่อนที่ญี่ปุ่นเมื่อเร็วๆ นี้ เขาได้ไปเยี่ยมเยือนชนบทหลายๆ ที่เพื่อชมบ้านญี่ปุ่นเก่าๆ "ผมชอบฟังเสียงกระดิ่งลมและก็เสียงกระบอกไม้ไผ่น่ะครับ ในไต้หวัน ผมยังชอบบริเวณที่พักอาศัยที่เต็มไปด้วยบ้านสไตล์ตะวันออกด้วย ผมชอบสิ่งต่างๆ ที่สร้างขึ้นมาจากไม้ ซึ่งก็รวมถึงเปียโนและเฟอร์นิเจอร์ด้วยครับ"

10. กรุงปราก

ในบรรดาเมืองต่างๆ ในยุโรปที่เขาเคยไป กรุงปรากเป็นเมืองที่เขาชื่นชอบมากที่สุด เขาชอบบรรยากาศและผู้คนที่นั่น บาร์เล็กๆ และร้านกาแฟทุกที่มีแบ็คกราวนด์ดนตรีที่แตกต่างกัน มีเปียโนเก่าๆ และเฟอร์นิเจอร์เก่าๆ "ปรากเป็น 'เมืองดนตรี' ในฝันของผมเลยล่ะครับ ผู้คนที่นี่คุ้นเคยกับดนตรีราวกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของลมหายใจของพวกเขา ถ้าผมโตขึ้นที่นี่ล่ะก็ ผมก็จะไม่รังเกียจการได้ทำงานเป็นนักเปียโนในร้านกาแฟ หรือการเป็นครูสอนเปียโนหรอก แน่นอนว่าผมคงไม่เป็นป๊อปสตาร์หรอกนะครับ ในกรุงปรากนี้ มันไม่สำคัญว่าคุณจะทำรายได้ได้เท่าไหร่ ทุกคนสามารถแสดงดนตรีของตัวเองออกมาได้อย่างมีอิสระเสรี กรุงปรากจะดูแตกต่างออกไปอย่างมากเมื่อคุณมองมันจากมุมมองนี้นะครับ ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายกับการได้นั่งอยู่ในร้านกาแฟอย่างสบายๆ จริงๆ แล้ว มันจะรู้สึกดีถ้าคุณไม่ต้องทำอะไรต่อมิอะไรมากมาย แต่ผมว่าวิถีชีวิตแบบนี้เหมาะกับคนสูงอายุซะมากกว่า"

11. เขาได้พิสูจน์ให้เห็นว่าพรสวรรค์สำคัญกว่าหน้าตา

ทุกคนในอุตสาหกรรมเพลงต่างก็ตกตะลึงเมื่ออัลบัมเดบิวของแอนตี ป๊อบไอดอลคนนี้ขายได้หลายล้านก๊อปปีในปี

2000 พวกเขายังยกย่อง Jay ในการฟื้นฟูดนตรีป๊อบของจีนด้วยซาวนด์ R & B, ฟังก์ และฮิปฮอปที่ผสมผสานเข้ากับดนตรีแบบจีนดั้งเดิมได้อย่างโดดเด่น อัลบัมชุดที่ 4 ของเขา Yeh Hwei Mei ทำลายสถิติด้วยการขายได้ถึง 25,000 ก๊อปปีภายใน 5 วัน ใบหน้าที่บึ้งตึงของเขานอกจากจะไปปรากฏอยู่ในโฆษณามือถือพานาโซนิคแล้ว ยังได้ลงหน้าปกนิตยสาร Time อีกด้วย นี่คือชายที่ Jacky Wu อ้างว่า "ไม่หล่อเหลาพอที่จะเป็นผู้ให้ความบันเทิง"

12. เขามีชีวิตอยู่เพื่อดนตรีของเขา

คุณเชื่อมั้ยล่ะว่าความฝันของ Jay คือการทำดนตรีไม่ใช่ป๊อปสตาร์ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามเขาถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเมื่อเขาเปลี่ยนสังกัดจาก BMG ไป Sony Music เขาก็ตอบอย่างหน้าตาเฉยว่า "อย่ามายุ่งกับผม ผมไม่สนมันหรอกตราบใดที่มันไม่กระทบกับดนตรีของผม"

13. เขามีความมั่นใจอย่างเปี่ยมล้น

Tan Poh Choo บรรณาธิการของ I-weekly ที่ได้สัมภาษณ์ Jay หลายต่อหลายครั้ง "เขาจะบอกคุณตรงๆ เลยว่า เขาคิดว่าดนตรีของเขาน่ะวิเศษสุด แต่เขาก็เป็นคนขี้อายมากๆ ในตอนที่คุณสัมภาษณ์เขาตัวต่อตัว เขาจะมองไปในทุกที่ยกเว้นคุณเพื่อหลีกเลี่ยงการสบสายตากัน แต่เขาก็ไม่เคยเป็นคนหยาบคายเลย

14. เขารักแม่ของเขา

Jay ตั้งชื่ออัลบัมที่ 4 Yeh Hwei Mei ตามชื่อแม่ของเขา ซึ่งเป็นการกระทำที่คล้ายๆ กับในซิงเกิลแรกของเขา In the Name of the Father ซึ่งเขาอุทิศให้กับพ่อของเขา (พ่อแม่ของเขาแยกทางกันตั้งแต่เขาอายุได้ 14 ปี) ถึงแม้ว่าเขาจะมีบ้านหนุ่มโสดอยู่ในไทเป แต่เขาก็ชอบที่จะพักอยู่ที่บ้านกับแม่ของเขามากกว่า

15. เขาขี้อายต่อหน้าสาวๆ

ถึงแม้ว่าเขาจะมีข่าวคราวกับสาวสวยมากหน้าหลายตา เช่น Vivian Hsu และ Jolin Tsai แต่เขาก็ยังคงวิตกจริตเวลาที่อยู่ใกล้สาวๆ อยู่ดีนั่นเอง แล้วเขาก็แสนเบื่อหน่ายกับข่าวลือเรื่องเขากับ Jolin ด้วย เขาออกมาประกาศว่า เธอเป็น "เพื่อนผู้หญิงคนแรกและคนสุดท้ายของผมในวงการบันเทิงครับ"

16. เขาเป็นคนธรรมดาๆ นี่เอง!

เขาไม่ได้คิดอะไรมากมายเกี่ยวกับสถานภาพดาราของเขา "ผมไม่จำเป็นจะต้องพักโรงแรมที่ดีที่สุด ผมยังคงกินบะหมี่เนื้อที่ร้านข้างถนน บางครั้ง ตอนที่ผมเดินไปตามถนน ไม่มีใครจำผมได้ด้วยซ้ำ "เขายังกล่าวเสริมอีกว่า "ในตอนที่ไม่มีใครจำคุณได้ คุณก็จะเริ่มรู้สึกว่าคุณก็เป็นคนธรรมดาๆ เหมือนกัน"

  • สินค้าที่เกี่ยวข้อง
    คลิกดูรายละเอียด

  •  

    Top
    E-Mail

    Password


    Community
    Activity
    Photo Contest
    Bey Blade
    Cartoon 9
    Chat Room
    D-3
    D-Terminal
    D-Power
    Digimon
    Download
    Market Place
    Micro pet
    Quiz
    Can not select dB